เด็กสาวโชคร้ายถูกหลอกไปขายบริการ มีสักกี่คนที่จะได้รับความช่วยเหลือกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย สาวรุ่นส่วนใหญ่ไว้ใจคนง่าย อยากทำงานสบายหาเงินใช้เอง จนเป็นจุดอ่อนต้องตกเป็น “เหยื่อ”
อย่างเช่นชีวิตของ “น้องนุช” เด็กสาววัย 16 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เธอเป็นลูกสาวคนเดียว เป็นดวงใจของพ่อแม่ แต่ด้วยความยากจน นางใหม่ อายุ 42 ปี และนายหมึก อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา จึงต้องฝากลูกไว้กับยาย เพื่อไปขายแรงทำงานรับจ้างก่อสร้างที่ต่างจังหวัด ใครจ้างก็ต้องไป ไม่ว่าที่ไหน จังหวัดไหน ทั้งคู่จะสู้ไม่ถอย เพราะช่วงโควิดที่ผ่านมา ครอบครัวต้องลำบาก เพราะไม่สามารถออกไปหาเงินได้
ขณะที่นางใหม่กับนายหมึก ทำงานอยู่ที่ จ.สระบุรี คิดถึงลูกจึงโทรฯ ไปหา แต่คาดไม่ถึง ยายได้บอกว่า น้องนุช เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนที่กรุงเทพฯ แล้ว ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง! บอกว่าอยากไปทำงานหาเงินด้วยตัวเอง จากนั้นพ่อแม่ก็ได้แต่ทำใจ แม้จะห่วงลูกสักปานใดก็ตาม เพราะไม่รู้จะไปตามตัวที่ไหน ลูกบอกเพียงแต่ว่าสบายดี พ่อแม่ไม่ต้องห่วง แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน
“หนูรู้จักกับพี่ออมทางเฟซบุ๊ก พี่ออมใจดี ให้หนูอยู่ด้วย และพาไปทำงาน แต่งตัวสวยๆ”
ผ่านไปประมาณเดือนเศษ แม่ก็ได้รับข่าวร้าย เมื่อลูกสาวแชตไลน์มาบอกว่า “พี่ออมหลอกหนูมาขายตัวที่เมียนมา อยู่เมืองเมียวดี หนูไม่อยากทำ หนูอยากตาย” แม่แทบช็อก! และลูกยังบอกต่ออีกว่า “ทางเถ้าแก่คนจีนเจ้าของร้านบอกว่า ถ้าอยากกลับบ้าน ต้องหาเงินมาไถ่ตัว 2 หมื่นกว่าบาท”
สองสามีภรรยาไม่มีปัญญาจะหาเงิน 2 หมื่น จึงตั้งสติปรึกษากัน ก่อนจะพากันไปแจ้งความกับตำรวจและร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยลูกสาวจากศูนย์ดำรงธรรม แต่หลายวันผ่านไป ก็ไม่มีความคืบหน้า นางใหม่กับนายหมึก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
นางปวีณา ได้ประสาน นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า พื้นที่บางแห่งใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา จำเป็นต้องให้ผู้มีความใกล้ชิดกับทหารเมียนมาเข้าช่วยเหลือ
จากนั้นนางปวีณา ได้ประสาน พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก.ร.14 ขอให้ช่วยติดต่อกับทหารเมียนมา ชุด TBC ในพื้นที่แม่สอด-เมียวดี หลังทราบพิกัดที่อยู่ของเด็กสาว เจ้าหน้าที่ทหารไทยกับเมียนมาได้เข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะที่แฝงค้าบริการ อยู่ด้านหลังกาสิโนแจ็คดรากอนไนท์ ในเมืองเมียวดี ช่วยเหลือน้องนุชออกมาได้ และนำตัวขึ้นเรือข้ามฝั่งแม่น้ำเมยมายังฝั่งไทยอย่างปลอดภัย
หลังทราบข่าวเจ้าหน้าที่ช่วยลูกสาวออกมาได้ปลอดภัย น้ำตาแห่งความดีใจของสองสามีภรรยาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว และแล้ววันที่รอคอยของพ่อและแม่ก็มาถึง!
นางปวีณา พานางใหม่และนายหมึก เดินทางไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ทันที เพื่อรับลูกสาวกลับบ้าน และนางปวีณา ได้ขอบคุณ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก.ร.14, พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด จว.ตาก, นางสาวอัชรา มหันตรัตน์ รักษาการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตาก ที่ร่วมบูรณาการให้ความช่วยเหลือ
น้องนุช เล่าให้ทุกคนฟังว่า ได้อ่านข้อความเชิญชวนในเฟซบุ๊กว่า ต้องการรับสมัครพนักงานพีอาร์สาวไม่จำกัดวุฒิการศึกษา รายได้สูงเดือนละ 5 หมื่นบาท-1 แสนบาท ตนอยากช่วยครอบครัวหารายได้เลยหลงเชื่อ ทักข้อความสมัครงานด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายหน้าได้ออกค่าเดินทางให้ทั้งหมด ก่อนจะพาลักลอบข้ามชายแดนในพื้นที่ท่าข้ามธรรมชาติ ไปขึ้นฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา
“จากนั้นหนูถูกนำตัวไปยังร้านคาราโอเกะ บังคับให้ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าชายจำนวนมาก ทั้งที่ไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ คิดว่าจะต้องตายในเมียนมาแน่นอน มีจังหวะที่นายหน้าอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ไม่กี่นาที หนูจึงรีบส่งข้อความไปหาแม่ขอให้ช่วยเหลือ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือให้พ้นนรก ได้กลับบ้านมาเจอหน้าพ่อแม่อีกครั้ง ต่อไปนี้หนูจะไม่เชื่อใครง่ายๆ อีกแล้ว”
ภายหลังความร่วมมือช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ครั้งนี้สำเร็จ นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เพื่อส่งข้อมูลของเหยื่อสาววัย 16 รายนี้ ไปให้ เพื่อสั่งการให้มีการสอบสวนขยายผลจับกุมแก๊งค้ามนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป
เรื่องราวจากชีวิตจริง แต่ชื่อพ่อแม่ลูกผู้เสียหายทั้ง 3 คน เป็นเพียงนามสมมุติเท่านั้น
นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่.