อีดีในผู้ที่เป็นเบาหวานควรทราบ โดยค่าเบาหวานสะสม HbA1C ห้ามเกิน 5.7 จากเลือดไม่ต้องงดอาหารตรวจโดยอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท เพราะระดับน้ำตาลที่สูงในเลือดจะทำให้เกิดการทำลายระบบประสาททั่วร่างกาย จากการตรวจเส้นใยประสาทอัตโนมัติในท่อคอร์ปอร่า คาเวอร์โนซ่า (corpora cavernosum) ซึ่งเป็นแกนขององคชาตของคนที่เป็นเบาหวาน พบความผิดปกติในโครงสร้างของเส้นใยประสาท ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าผู้ป่วยเบาหวานเกือบทุกรายมีปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะร่วมด้วย เพราะองคชาตและกระเพาะปัสสาวะถูกควบคุมโดยประสาทส่วนเดียวกัน (Sympathetic nerve)

ในทางตรงกันข้ามในผู้ที่เป็นเบาหวานโดยไม่มีอาการทางเพศจะมีความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะน้อยมาก จึงสรุปได้ว่าในผู้ที่เป็นเบาหวานที่มีอาการอีดีมักจะมีความบกพร่องของปลายประสาทมากกว่าคนที่เป็นเบาหวานไม่มีอาการอีดี เมื่อเทียบกับคนที่มีอายุเท่า ๆ กัน โรคเบาหวานมีความเกี่ยวข้องกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (อีดี) ของผู้ชาย ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นเบาหวานมักจะมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่อัตราจะสูงขึ้นตามอายุ ส่วนใหญ่แล้วอาการอีดีจะเกิดก่อนการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานมาหลายปี โดยเริ่มต้นจากการที่อวัยวะเพศแข็งตัวน้อยลง แข็งตัวได้ไม่นาน ไม่แข็งตัวเป็นครั้งคราว จนกระทั่งอาจไม่แข็งตัวเลย

อาการดังกล่าวจะเกิดอยู่ราว 6-18 เดือนหรือนานกว่านั้น อาการเบาหวานจึงจะเริ่มปรากฏ อาการของเบาหวานที่สามารถสังเกตได้คือ หิวบ่อย กระหายน้ำ และปัสสาวะบ่อยขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีอาการคันตามตัว และผอมลงอีกด้วย ดังนั้นถ้าเกิดมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ เพราะการรักษาและการคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีจะทำให้ปัญหาทางเพศกลับเป็นปกติเร็วขึ้น แต่หากมีอาการอีดีแล้วก็ต้องรักษาเรื่องการแข็งตัวควบคู่กับการควบคุมน้ำตาล จะได้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งทางกาย ทางใจ และทางเพศ.

………………………….
ดร.อุ๋มอึ๋ม