แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงทำผลงานได้อย่างติดลมบนนะครับ หลังเปิดบ้านดับซ่า อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ลงได้อย่างงดงาม 3-1 พร้อมหน้าคว้าชัยได้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
เกมนี้ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม “ผีแดง” เปลี่ยนผู้เล่น 11 คนแรกจาก 3 นัดที่ผ่านมา เพียงคนเดียวเท่านั้นด้วยการส่ง อันโตนี ปีกตัวใหม่ ที่เพิ่งคว้ามาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ลงสนามเป็นตัวจริงแทน แอนโธนี อีลังกา ทันที
ขณะที่ อันโตนี ก็ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวัง เมื่อจัดการกระทุ้งประตูเบิกร่องให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการรับบอลจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนจะปั่นโค้งด้วยซ้ายผ่านมือ อารอน แรมส์เดล นายทวารอาร์เซนอล เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสุดคลาสสิก
หลังจบเกม เทน ฮาก ออกมาพูดถึงศิษย์รักรายนี้ว่า เป็น Missing link หรือ จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ยังขาดหายไปสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนี่คือปีกขวาในแบบฉบับที่พวกเขามองหามาตลอด ขณะที่บรรดาตัวริมเส้นที่มีอยู่ในมือทั้ง แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช, อองโตนี มาร์กซิยาล หรือ กระทั่ง อีลังกา ต่างชื่นชอบการลงเล่นทางฝั่งซ้ายมากกว่า
ส่วนแผนการเล่นที่ เทน ฮาก จัดลงมาก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงใช้กลยุทธแบบเดียวกับที่เคยใช้กำราบ ลิเวอร์พูล นั่นคือการถอยลงไปรับต่ำ และปล่อยให้ อาร์เซนอล ครองบอลบุกเข้าใส่ จากนั้นจึงคอยดักเล่นงาน เดอะ กันเนอร์ส ด้วยเกมโต้กลับที่ทรงประสิทธิภาพ
ต้องบอกว่า แท็กติกนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังใช้ได้ผลเป็นอย่างดีเพราะประตูขึ้นนำ 2-1 และประตูตอกฝาโลง 3-1 จากฝีเท้าของ แรชฟอร์ด ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากจังหวะสวนกลับทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโชคอยู่เหมือนกันที่ไม่โดน อาร์เซนอล ออกนำไปก่อน หลังจากประตูของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ที่ส่งบอลผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ตั้งแต่นาทีที่ 12 ถูกผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ ริบคืนหลังทีมงาน VAR แจ้งว่า มาร์ติน โอเดการ์ด ดันไปทำฟาวล์ คริสเตียน อีริคเซน ก่อนที่บอลจะหลุดไปถึงเท้าของ มาร์ติเนลลี นั่นเอง
ลองคิดดูเล่น ๆ หาก อาร์เซนอล เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะไม่สามารถเล่นตามเกมที่ถนัด นั่นคือการตั้งรับ และรอสวนกลับได้
มิหนำซ้ำเมื่อเป็นฝ่ายต้องเปิดเกมรุกเพื่อทวงประตูตีเสมอจนแนวรับลอยสูงขึ้นมาก็คงจะกลายเป็นพวกเขาที่โดน อาร์เซนอล เล่นงานด้วยจังหวะสวนกลับเสียเองแน่นอน
สำหรับอีกหนึ่งความแตกต่างที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถคว้าชัยเหนือ อาร์เซนอล ได้ก็คือจังหวะปิดบัญชีที่เด็ดขาดกว่า โดยเกมนี้ เรด เดวิลส์ มีโอกาสยิง 8 ครั้งเข้ากรอบถึง 6 ครั้ง และเปลี่ยนเป็นประตูได้ 3 ครั้ง ขณะที่ ปืนใหญ่ มีโอกาสลุ้นประตูถึง 14 ครั้ง แต่ยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง และเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียงหนเดียวเท่านั้น
ส่วนโปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวจะลงเล่นในศึกยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก โดยจะเปิดบ้านรับมือ รีล โซเซียดัด จากสเปน ในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดว่า เทน ฮาก น่าจะหมุนเวียนผู้เล่นหลายตำแหน่งแน่นอน และก็อาจจะทำให้เราได้เห็นนักเตะใหม่อย่าง มาร์ติน ดูบราฟกา และคาเซมิโร ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรก ซึ่งก็อาจจะรวมไปถึง คริสเตียโน โรนัลโด ที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองมา 3 นัดติดต่อกันแล้วด้วยก็เป็นได้.
แท ยอน
