เป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ถูกจับตามาตลอดว่า เป็นพรรคใต้เงา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สำหรับพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” (รทสช.) ภายใต้การบริหารของ “แม่ทัพใหญ่” อย่าง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอออกโรงเปิดหน้าสู้ ก้าวเข้าสู่โหมดหัวหน้าพรรคเต็มตัว เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมทีมบริหารบิ๊กเนมหน้าเก่า-หน้าใหม่เข้าร่วมชายคา วันนี้ “ทีมข่าวเดลินิวส์” ถือโอกาสมาสนทนาถึงทิศทางและแนวทางของพรรค
โดย “พีระพันธุ์” เปิดฉากกล่าวถึงแนวนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะขายให้กับประชาชน ว่า สำหรับผมตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆ ของสังคมที่เกิดความไม่เท่าเทียมกัน และจากประสบการณ์ของผมเห็นว่าหลายเรื่องเป็นปัญหามาจากการเขียนกฎหมายที่ไม่ใช่เพื่อประชาชน แต่เป็นการเขียนกฎหมาย เพื่อควบคุมประชาชน และเขียนกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาครัฐ ฉะนั้นสิ่งที่เราจะดำเนินการ คือ จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายหรือออกกฎหมายใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งได้ยกร่างกฎหมายไว้ทั้งหมดแล้ว ถ้าหากเรามีจำนวน ส.ส.ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทันทีที่เปิดสภา พรรคจะยื่นกฎหมายทันทีไม่ต้องเสียเวลาร่างกฎหมาย และตอนนี้ได้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้าว พ.ศ. … พ.ร.บ.เกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. … พ.ร.บ.การพักหนี้ให้ประชาชน พ.ศ. … เป็นต้น
@ พรรครวมไทยสร้างชาติตั้งเป้า ส.ส.จะได้กี่ที่นั่ง
“อยู่ที่ประชาชน ถ้าประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองก็เลือกเรา ถ้าได้ 25 ที่นั่ง สามารถเข้าไปผลักดันกฎหมายได้ หากใครรู้จักผมก็จะเห็นว่าผมไม่เคยเล่นการเมืองเลย ผมทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่างเดียว ปัญหาหลายอย่างในบ้านเมืองผมดำเนินการ และเมื่อผมมาเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคนในพรรคก็ต้องทำงานแบบที่ผมทำ ฉะนั้นผลงานผมก็ดี ประวัติผมก็ดี เป็นสิ่งรับประกันพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่แล้ว ผมของจริง ทำจริง ผมทำไปแล้ว จึงมาพูด ไม่ใช่มาพูดก่อนทำ ตอนนี้รอแค่เวลาที่จะเข้าสภาเท่านั้น”
@ หน้าตาทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นอย่างไร และจะชูนโยบายทีมเศรษฐกิจของพรรคอย่างไร
สถานะเศรษฐกิจของประเทศในวันนี้ไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจในประเทศไทยเท่านั้น เพราะเป็นปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก ฉะนั้นต่อให้มี 7 ทีม 10 ทีมเศรษฐกิจเมืองไทยก็แก้ปัญหาไม่ได้ ผมไปพบกับประชาชน เขาไม่ต้องการทีมเศรษฐกิจ เขาต้องการคนที่เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน เพราะมองเมื่อไหร่ก็คนเดิม ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าพรรคไม่มีทีมเศรษฐกิจ แต่คนที่เข้ามาช่วยเขาไม่อยากเปิดตัวว่า เขาอยู่กับพรรคการเมือง และตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดตัว
@มองอย่างไรที่มีคนมองว่าหากพูดถึงพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะมีเงาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
ทำไมต้องคิดกันอยู่แบบนั้น ผมพูดกี่ครั้งแล้วว่าไม่มี ไม่ใช่ ผมทำพรรคนี้กับเพื่อนๆ ผมพูดแล้วไม่มีใครเชื่อ และผมมีความสัมพันธ์กับใครไม่ได้แปลว่าผมต้องทำทุกอย่างเพื่อคนนั้น ผมไม่มีสิทธิที่จะทำอะไรเพื่อสังคมและประชาชนบ้างหรือ ส่วนบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อย่างไร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอม และวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศอยู่แล้วว่าอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้วจะไปบอกว่าอยู่กับผมได้อย่างไร
และโดยหลักการต้องเสนอชื่อผมเป็นนายกฯ ผมและพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เกี่ยวกันในการทำพรรคนี้ หากมองแต่เพียงว่า ผมมีความใกล้ชิดทำงานกับท่าน ผมว่าไม่แฟร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำว่าพรรคนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าผมคิดว่าตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ ผมจะมีนโยบายของผมทำไม ผมนั่งทำงานอยู่ทุกวัน และการที่จะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่คิดว่าจะเสนอใครก็ได้ และเขายินยอมให้เราเสนอหรือไม่
@กลยุทธ์การวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และการปักธงในพื้นที่ภาคเน้นส่วนไหนอย่างไร
พรรครวมไทยสร้างชาติเป้าหมายอยู่ที่ ส.ส.เขต ไม่ใช่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นวันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้สนใจว่าจะหาร 100 หรือหาร 500 พร้อมสู้ทุกกติกา และวันนี้เราเดินงานไปในส่วนการคัดเลือก ส.ส.เขต ตอนนี้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคกำลังเดินงานเฉพาะด้านนี้อยู่ จึงไม่อยากไปพูดอะไรที่ล้ำเกินหน้า กก.บห.ทำอยู่ และพรรควางผู้สมัคร ส.ส.เขตตั้งแต่ภาคใต้ขึ้นมา ภาคกลางตอนล่าง ย้ำว่าผมไม่เคยดึงใครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขามา เขามาเอง ผมจะไม่ไปดึงใคร เพราะหากไปดึงเขามาแล้วทำไม่สำเร็จ ผมจะรู้สึกผิด และเหมือนไปทำให้เขามีปัญหากับชีวิตของเขา
@พื้นที่ที่จะทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปถึงฝั่งฝันนอกจากพื้นที่ภาคใต้แล้ว ในพื้นที่ภาคอีสานตั้งความหวังไว้หรือไม่
ตอนนี้เริ่มมีคนมาแสดงความจำนงทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน และอดีต ส.ส. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น แต่เราอยากสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ถ้าเป็นไปได้เราอยากได้คนในพื้นที่ที่เป็นชาวบ้านธรรมดาที่เขาใส่ใจกับปัญหาของชุมชนของเขา ผมอยากสนับสนุนคนเหล่านี้ ส่วนเขาจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ แต่อย่างน้อยถ้าเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงาน แม้ไม่มีตำแหน่งเขาก็ทำ
@แต่ละพรรคเริ่มยกทัพใหญ่ลงพื้นที่หาเสียง พรรครวมไทยสร้างชาติจะลงพื้นที่เปิดเวทีหรือไม่
ผมไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้น เพราะผมเป็นคนไม่ชอบอะไรที่สร้างภาพและขายภาพ ผมชอบอะไรที่สะท้อนความเป็นจริง มันจะไปสร้างความยิ่งใหญ่เพื่ออะไร ถึงเวลาการสร้างภาพยิ่งใหญ่ เกณฑ์คนมาเป็นร้อยเป็นพัน เสียค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างภาพเพียงไม่กี่ชั่วโมง สำหรับผมสนใจความเป็นจริงมากกว่า ดีกว่าสร้างภาพ โดยไปเกณฑ์คนมาหมื่นคน แต่คนมีใจกับเราเพียงแค่ 5-10 คนเท่านั้น ถ้าประชาชนคิดว่าต้องการนักการเมืองที่ทำงานจริงจังเพื่อชาติบ้านเมือง เห็นผลงานของผมในอดีต ถ้าคิดว่าเชื่อผมได้ก็เลือกผม เลือกพรรคผม.
