@@…วีกที่ผ่านมาประชาชนคนไทย เจอ พีคในพีค จากการออกประกาศมาตรการคุมเข้ม ที่ออกมาแบบลักหลับตอนตี 1 ของวันที่ 27 มิ.ย.64  โดยประกาศคำสั่ง “ศบค.” ที่ให้ 10 จังหวัดที่มีการระบาดจากเชื้อโควิดแบบพุ่งไม่หยุด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่วน “กทม.-ปริมณฑล” สั่งปิดไซต์ก่อสร้าง-แคมป์คนงาน-ห้ามกินอาหารในร้าน 30 วันด้วย มีผล 28 มิ.ย.

@@…ทำเอาห่ากระสุนพุ่งมาตกที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แบบเต็มๆ เนื่องจากก่อนที่จะออกมาประกาศบังคับใช้ ได้บอกเพียงแค่ว่า จะปิดแคมป์คนงานเท่านั้น แถมเมื่อประกาศออกมาแล้ว ยังไม่ได้มีการวางแผน เหมือนเป็นการออกนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไปดูมาตรการรองรับเยียวยา แต่ผู้คนทั้งประเทศต้องเกิดอาการจุกอก โดยเฉพาะคนทำมาหากิน ร้านอาหารต้องกินน้ำตาแทนข้าว

@@…ต้องถือได้ว่างานนี้การวางแผนผิดพลาด ตอกย้ำการ บริหารจัดการของรัฐบาลนี้ล้มเหลว มากยิ่งขึ้น เพราะความเชื่อมั่นในเรื่องการจัดสรร จัดหาวัคซีน ให้กับประชาชนยังไม่ได้ทั่วถึงอีกทั้งความมั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนที่ประชาชนก็ไม่ค่อยมั่นใจ แต่โดยสภาพบังคับก็ต้องไปฉีด แล้วล่าสุดก็ยังมีเรื่องวัคซีนที่ส่งฉีดนั้นเกิดมีลอตที่มีปัญหาขึ้นมา โอละพ่อจริงๆ งานนี้

@@…เมื่อความไม่เชื่อมั่นเพิ่มสูงขึ้น ไม่เชื่อผู้นำเหมือนก่อน เพราะพูดจาไม่ได้มีความน่าเชื่อถือแล้ว เพราะไม่พูดความจริงทั้งหมด จนทำให้ วิกฤติศรัทธา นี้ไปตกอยู่ที่บรรดา นักรบเสื้อกาวน์ โดนห่ากระสุนสาดใส่เข้าไปด้วย โดยเฉพาะ “หมอยง” นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจอดราม่าถูกกระแสโซเชียลผุดแคมเปญล่ารายชื่อปลด “หมอยง” ออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา ที่เข้าข้างรัฐบาล สนับสนุนวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพอย่าง Sinovac โดยไม่มีหลักฐานทางวิชาการมารองรับ

@@…หนำซ้ำ เนติบริกร “นายวิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาตอกย้ำโยนบาปให้กับบรรดาหมอๆ บอกว่า ข้อกำหนดของ ศบค.ที่ประกาศนั้น ทาง หมอ เขาขอว่าจะต้องทันที เพราะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบทางเศรษฐกิจ และผลกระทบในทางสุขภาพ เพราะโควิดมันรุนแรงมาก โดยเฉพาะสายพันธุ์เบตา ที่ระบุไว้ในข้อกำหนด ส่วนเหตุผลที่ต้องห้ามนั่งกินในร้านอาหารก็คือ การบริโภคอาหารเป็นเหตุให้ต้องถอดหน้ากากอนามัย นี่คืออันตราย

@@…สถานการณ์รัฐบาลครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะหนักหน่วงเข้าไปทุกขณะ เพราะคนทุกระดับชั้นเกิดความโกลาหล หมดหวัง การทำมาหากินก็ยากลำบาก ทุกอย่างมันพังพินาศลงแล้วกับรัฐบาลที่มีทหารเป็นผู้นำ ถึงเวลาหรือยังที่คนไทยทั้งประเทศควรมองหาผู้นำใหม่ เปลี่ยนผู้นำกันได้แล้วหรือยัง?  

@@…จบเรื่องร้อนๆ มีดูกิจกรรมเหล่าทัพกันบ้าง เริ่มที่กองทัพภาคที่ตรวจรับทหารใหม่….พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการรับทหารใหม่ ผลัด 1/64 ของหน่วยฝึกทหารใหม่ ในพื้นที่ กทม. ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งกำหนดโดยกรมยุทธศึกษาทหารบก โดยเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม ของหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (กองพันทหารม้าที่ 3 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์) และ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (กองพันทหารสื่อสารที่ 1)

@@…พร้อมมอบแนวทางการดำเนินการในการฝึกทหารใหม่ ให้ดำเนินการกักตัว ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ชุดครูฝึก และ จนท.ประจำหน่วยฝึก  14 วัน ก่อนดำเนินการรับทหารใหม่, ทำการตรวจ swab test หรือ rapid test ให้ และฉีดวัคซีน ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ชุดครูฝึก และ จนท. ประจำหน่วยฝึกทหาร ฉีดวัคซีนให้กับทหารใหม่ และกักตัวทหารใหม่ 14 วัน ก่อนการฝึก รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับโรงพยาบาลทหารบก ในพื้นที่ เพื่อเตรียมการในกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อ

@@…พล.ต.ไพศาล หนูสังข์  ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และคณะ ได้ตรวจความเรียบร้อย พร้อมทั้งสั่งการให้ หน่วยกองพันเสนารักษ์ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 ดำเนินการเตรียมความพร้อมจัดเตรียมเตียงสนาม จำนวน 600 เตียง และเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งยานพาหนะ รถตู้พยาบาล สำหรับใช้ในการเคลื่อนย้าย รับ- ส่ง ผู้ป่วย COVID-19 ละลอกใหม่ โดยได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานในการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ COVID-19 ขอให้เป็นไปตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยให้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ และยานพาหนะให้พร้อมปฏิบัติงานตอบสนองการสนับสนุนได้ในทันที และกำชับให้อบรมเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท เป็นไปตามมาตรการป้องกันที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม และเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบกที่ว่า “กองทัพบกต้องเสียสละ ทุ่มเทศักยภาพในทุกด้าน และร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการดูแลประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยต่อไป”

@@…นอกจากนี้ พล.ต.ไพศาล ในฐานะ ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุม เพื่อเตรียมการดำเนินกิจกรรมโครงการฯ ในห้วงเดือน ก.ค.2564 งวดที่ 2 ในงบประมาณของ สมศ.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งเป็นการประชุมทางไกล (ผ่านทางระบบ ZOOM)  โดยมีวาระหารือที่สำคัญ ได้แก่ 1. กิจกรรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการฯ, 2.กิจกรรมอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ, 3. กิจกรรมการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ 4. กิจกรรมการฝึกทบทวนสมาชิก อรบ./อรม. ประจำปีงบประมาณ 2564 (ห้วงที่ 2 ) ทั้งนี้ กิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวในข้างต้น ต้องดำเนินกิจกรรมภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และต้องไม่ขัดต่อราชกิจจานุเบกษา ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินล็อกดาวน์กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้

@@…พล.ร.ต.ชัยวัฒน์ คุ้มทิม ผู้บัญชาการศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ร่วมกับนาย กิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ ตรวจความพร้อมในการซักซ้อมการรับทหารใหม่ผลัดที่ 1/64 รายงานตัว ภายใต้สถานการณ์ โควิด ณ อาคารแผนกวิชาการรบพิเศษ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

@@…พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลหน้าถ้ำ ตรวจสภาพความพร้อม และการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบาย ก่อนมอบอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 แก่กำลังพล

………………..
ผู้พันบานเย็น