ถ้าอยู่ในตำแหน่งต่อจะขัดรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน?? ซึ่งเมื่อ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ได้รับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อจะวินิจฉัยเรื่องนี้ พร้อมมีคำสั่งให้ “พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย…

“การเมือง” ล่าสุด “ชวนให้เครียดอีก”

ฝ่ายรัก-ฝ่ายไล่-ฝ่ายรอดู…ต่าง “ลุ้น??”

ซึ่ง “ลุ้นมากไป…ก็อาจเครียดจนป่วย!!”

ทั้งนี้ ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มกรณี “เครียดเพราะการเมือง” มาสะท้อนให้พิจารณากันไว้อีกครั้ง…จากข้อมูลวิชาการด้าน “จิตวิทยา” ซึ่งการติดตามสถานการณ์การเมือง…หากใคร “ติดตามแล้วเครียด” แล้ว “สลัดความเครียดไม่ได้!!” จะส่งผลทำให้ “เกิดปัญหาด้านจิตใจ-เกิดปัญหาสุขภาพ” ได้!! ซึ่งนี่มิใช่เรื่องที่พูด ๆ กันไปโดยไม่มีมูลความจริง…หากแต่ในทางการแพทย์นั้นถึงขั้นมีการกำหนดคำเรียก มีทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย นั่นคือ… “โพลิติคอล สเตรส ซินโดรม” หรือ “พีเอสเอส (Political Stress Syndrome : PSS)” หรือ “สภาวะความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมือง”  

นี่เป็นศัพท์สุขภาพที่ “วนเวียนในไทย!!”

ในจังหวะที่ “การเมืองไทยมีสถานการณ์ร้อนฉ่า!!” อีก…ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มข้อมูล “คำเตือน” เพื่อป้องกัน “ภาวะเครียดการเมือง” มาแจกแจงไว้ โดยคำอธิบายภาวะดังกล่าวนี้…มีการระบุไว้ว่า… สภาวะความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมือง หรือ “PSS” เป็น “ปฏิกิริยาของอารมณ์และจิตใจ” ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือของผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องราวความเป็นไปในทางการเมืองแบบเกาะติดใกล้ชิด จนทำให้ “เกิดตึงเครียดทางจิตใจจากเรื่องการเมือง”

ปุจฉา… “เครียดการเมืองแล้วยังไง??”

วิสัชนานั้นก็คือ… “เสี่ยงจะเกิดผลร้าย!!”

ในทางวิชาการแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้กรณีนี้ มีการระบุไว้อีกว่า… PSS หรือ “สภาวะความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมือง” นั้น…กับ “ผลร้าย” ที่เสี่ยงจะเกิดคือ… สามารถที่จะ ทำให้ผู้ที่เกิดสภาวะดังกล่าวนี้มีอาการทั้งทางจิตใจ และทางกาย รวมถึงสามารถ ทำให้กระทบต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น อีกด้วย โดยบางคนอาจจะ เกิดความคิดคาดการณ์ที่นำสู่ความรู้สึกวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ และก็ เกิดความหวั่นวิตก โดยเฉพาะกับคนที่มีความ “อินกับการเมืองมาก”

ทั้งนี้… ถึงแม้ว่า “PSS” นี่จะไม่ใช่โรคที่เกิดจากปัญหาทางสุขภาพจิต แต่ก็ เป็นปัญหาทางสุขภาพจิตที่ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติด้านจิตใจมากที่สุดในไทยในช่วงนับสิบปีมานี้!! จนกลายเป็น อีกปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย!! …นี่เป็นการระบุไว้ในเชิงวิชาการทางการแพทย์ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งล่วงเลยถึงตอนนี้ก็ยัง “น่าคิด” โดยที่การระบุดังกล่าวนี้เป็นการระบุไว้โดยผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซึ่งจากสถานการณ์ปัญหาทางการเมือง…จึงมีการ “เตือนคนไทย”

“ระวังป่วย!!” จากการ “เครียดการเมือง”

การเกิดภาวะ “PSS” ส่งผล “ทำให้เกิดอาการทั้งทางใจ-ทางกาย” โดยสำหรับอาการทางกาย ก็เช่น… ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงขมับ ต้นคอ แขนขา ปวดท้อง ชาตามร่างกาย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพปกติ หรือเกิดอาการ นอนไม่หลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ หรือหลับแล้วตื่นกลางคืนแล้วก็ไม่อาจหลับต่อได้ ส่วนอาการทางใจก็เช่น… รู้สึกวิตกกังวล มีการครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่าน รู้สึกเหมือนไม่มีทางออก รู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ฉุนเฉียว ก้าวร้าว …นี่เป็นอาการกาย-ใจ ที่อาจเกิดได้กับผู้ที่เกิด “สภาวะเครียดการเมือง”

และยังมี อาการเกี่ยวกับสัมพันธภาพกับผู้อื่น ซึ่งก็ถือว่า “น่ากลัว” คือ… มีการ โต้เถียงกับคนอื่น หรือแม้แต่คนใกล้ชิด คนในครอบครัว โดยอาจมีการ ใช้อารมณ์ ตั้งแต่ปานกลางถึงรุนแรง โดย ไม่สามารถยับยั้งตนเองได้ หรือมักจะ พยายามเอาชนะทางความคิด แม้แต่กับคนที่เคยมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งอาการหรือพฤติกรรมรูปแบบนี้จะนำมาซึ่งการเกิดปัญหาสัมพันธภาพอย่างรุนแรง อาจมีความคิดที่จะ ใช้กำลังเพื่อเอาชนะ จน เกิดการทำร้ายร่างกาย!!

“เครียดการเมือง” จน “เกิดเรื่องร้าย!!”

จาก “อันตราย” ที่อาจกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งสุขภาพกาย-สุขภาพจิตใจ รวมถึงอาจเกิดปัญหากับคนรอบข้างอย่างรุนแรงได้ ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็ขอสะท้อนย้ำเตือนว่า… ถ้าใครมีอาการ “PSS” ดังที่ว่ามาเกินสัปดาห์ มีอาการมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ทั้งนี้ แม้ “เครียดการเมือง” สามารถหายได้เมื่อสถานการณ์ในแบบที่ผู้ที่เครียดรู้สึกไม่ชอบได้คลี่คลายไป แต่ “ป้องกันไว้ก่อนย่อมจะดี”  โดยลดความสำคัญเรื่องการเมืองลง หันเหความสนใจไปในเรื่องอื่น ๆ บ้าง หรือออกกำลังกาย ฝึกผ่อนคลาย หรือหาสิ่งที่ทำให้จิตใจสงบ ซึ่งการมีส่วนร่วมทางการเมืองก็เป็นเรื่องดี แต่ทว่า…

“อินการเมืองจนเครียด!!” นั้น น่าห่วง”

ถึงขั้น เกิด PSS” นี่อาจจะ อันตราย”

ปะเหมาะเคราะห์ร้าย…อาจถึง ICU”.