ทั้ง กกต.และ คกก.ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ตีตกคำร้องประชาชนที่ให้พิจารณา “กรณี 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทั้งไม่รับและไม่ส่งต่อหน่วยงานใด ๆ ทั้งสิ้น แม้ได้ชื่อ “องค์กรอิสระ” กินเงินภาษีประชาชน แต่เป็นอีกครั้งทำให้เห็นบทบาทองค์กรอิสระว่า มีน้ำยาและประสิทธิภาพแค่ไหน เพราะปม 8 ปี คือวาระสุดร้อนของสังคม แต่ 2 องค์กรนี้กลับเอามือซุกหีบ ไม่กล้าแม้แต่รับไว้เพื่อส่งต่อ เหมือนอยากเติมฟืนในเตาถ่าน อย่างไรอย่างนั้น
มีโอกาสแก้ รธน.เมื่อไร ฝากยุบทิ้งให้หมดเถอะ เสียดายเงินแผ่นดินจริง ๆ จะมีทำไม ในเมื่อไม่เคยเป็นที่พึ่งของสามัญชนคนธรรมดา แต่กลับดูเหมือนมุ่งรับใช้กลุ่มผู้มีอำนาจ
กลับมากรณี 8 ปีนายกรัฐมนตรี ที่สุดเรื่องคงไปอยู่ที่ “ศาล รธน.เป็นหลัก” ใครคิดฝันจะเห็นผู้นำคนนี้ ออกมาแถลงต่อหน้าทีวีพูลว่า “ข้าพเจ้าขอลาออกเพื่อรักษากฎกติกาของบ้านเมืองตาม รธน.อันเป็น ก.ม.สูงสุดในการปกครองประเทศ และเพื่อให้ประเทศชาติอันเป็นที่รักของข้าพเจ้าได้เดินหน้าต่อไป ส่วนข้าพเจ้านั้น พอแล้ว…” ก็คงได้แต่ฝันค้างถาวรนั่นล่ะ
ที่จริง นายกฯ คนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม รธน. ที่สั่งร่างมากับมือก็ได้ ในเมื่อเป็นนายกฯ แห่งการยกเว้นอยู่แล้ว ท่อนถวายสัตย์ปฏิญาณที่ว่า…“และจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ก็ปรากฏว่า ถวายไม่ครบเอาดื้อ ๆ โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ ทั้งที่ รธน.บัญญัติชัด การถวายสัตย์ปฏิญาณจะต้องทำโดยถูกต้องครบถ้วน หรือจะเป็นอย่างที่ รศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล แห่งธรรมศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตไว้แหลมคมว่า หรือ นี่เป็นแผนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจจะไม่ทำตาม รธน.กรณีห้ามเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี ไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง จะได้ผูกขาดอำนาจต่อไปก็ได้ ใครจะไปรู้
แต่…แผนสุดแยบยล?!?
ถึงวันนี้ ศาล รธน.จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือจะรับไว้พิจารณาเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยอีกทีก็แล้วแต่ (เว้นแต่ยุบสภาก่อน 24 ส.ค. 65) อารมณ์ความรู้สึกของผู้คนก็ไปไกลเกินแล้วการเคลื่อนไหวของประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ที่ต่อต้านมีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน
และแม้ที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ยาวต่อได้ถึงปี 70 แล้วไง ก็ได้อยู่แบบนั่งบน “กองเพลิง” ทุกวันจะกลายเป็นตำแหน่ง “ทุกขลาภ” หายใจยังผิด การขับไล่ เสียงสาปแช่ง จะมาจากทุกสารทิศ นับตั้งแต่วันนี้และจะหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ…หรือไม่แคร์
ตอนจะขึ้นค่าไฟ พล.อ.ประยุทธ์ อุตส่าห์ยกหลัก “อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค” อันว่าด้วย เรื่องของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และหนทางดับทุกข์ มาเทศนานักข่าว จะได้เข้าใจบ้าง
วันนี้ถึงวาระสำคัญสุดของชีวิตอีกครั้ง จะดำรงอยู่ต่อแบบไหน มันยิ่งกว่าทางสองแพร่ง เหนือกว่าคำวินิจฉัยศาล รธน. และด้วยความหวังดี ไม่มีอะไรดีกว่าที่จะแนะนำให้ท่านตั้งสติ หันไปทบทวนสิ่งที่ “พระพุทธเจ้า” ของเราได้ตรัสรู้ทิ้งไว้เป็นมรดกสุดล้ำค่าของมนุษยชาติ
คือ หลักการของไตรลักษณ์ กฎว่าด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์อันไม่มีใครหนีพ้น นั่นคือ อนิจจัง ความไม่เที่ยงของทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป, ทุกขัง ความเป็นทุกข์ ใครบ้างไม่เคยทุกข์ เป็น เจ้าชายสิทธัตถะ อยู่ในพระบรมมหาราชวังแท้ ๆ ยังหนีทุกข์ไม่พ้น, อนัตตา ที่มักชอบแปลว่า ความว่างเปล่า แต่ซึ้งกว่าคือ ความไม่มีตัวตนที่แท้จริง พล.อ.ประยุทธ์ ลองเอามือจิ้มไปที่ตัวเองสิ ชี้ไปจมูก นั่นจมูก ชี้หู นั่นหู ชี้คิ้ว ตา ปาก แขน ขา ตับไตไส้พุง หัวใจ ส่วนไหนล่ะ ตัวตน มันต้องประกอบร่างทั้งหมด ถึงเป็นคน
พระพุทธองค์จึงทรงสอนว่า อย่ายึดมั่น ถือมั่น ตัวกู ของกู คนเราถึงต้องปล่อยวางเมื่อเวลามาถึง เพราะที่สุด แม้แต่ตัวตนเราเอง ยังไม่มีเลย อย่าว่าแต่ของนอกกาย ยศถาบรรดาศักดิ์
อยู่บนเก้าอี้แห่งอำนาจมา 8 ปีเต็ม นานมากแล้วนะ บ้านเมืองดีจริงมั้ย คนไทยทำไมมีแต่หนี้ มีแต่สภากล้วย ของแพงทั้งแผ่นดิน..เมื่อเวที “ปิดม่าน” นักแสดงย่อมต้องอำลา ขืนดื้อด้าน ข้าคือพระเอก ทู่ซี้เล่นต่อไป ทั้งที่คนดูไม่เอาแล้ว ย่อมเจอแต่เสียงโห่ฮาป่า ขับไล่ ไสส่ง ดีไม่ดี ของเหม็นก็จะเขวี้ยงใส่หน้าเอา
ลิเกหลงโรง มีแต่ต้องเก็บฉาก กลับบ้านในที่สุด จะอุ้มเตาไฟไว้ทำไม.
———–
ดาวประกายพรึก
