ตามข้อมูลของตำรวจสวีเดน ในปีนี้มีคนถูกยิงเสียชีวิตในประเทศแล้วอย่างน้อย 44 คน ซึ่งเกือบทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมระหว่างแก๊ง หรือภายในแก๊งเดียวกัน เมื่อความรุนแรงขยายวงกว้าง ความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยผู้แสดงความเห็น 41% กล่าวว่า อาชญากรรมคือความกังวลใหญ่ที่สุดของพวกเขา ตามรายงานในปีนี้ของสถาบันสังคม ความคิดเห็น และสื่อ ของมหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์ก

ทว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหาสำหรับพรรคสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของรัฐบาลสวีเดนที่ต้องการดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3 จากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 11 ก.ย.นี้ เพราะแม้จะมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้น และมีทรัพยากรสำหรับการควบคุมตรวจตรามากขึ้น แต่ทางพรรคกลับไม่สามารถยับยั้งการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมลักษณะนี้

เจ้าหน้าที่มาร์ติน ฟอร์สสเทน ผู้บังคับการสำนักงานตำรวจเมืองโอเรโบร ของสวีเดน

ทั้งนี้ ตำรวจกล่าวถึงปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ การกีดกันทางสังคม, การบูรณาการที่ไม่ดี, ช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจน และการใช้ยาเสพติดที่มากขึ้น ว่าเป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ขณะที่พรรคการเมืองกลุ่มกลางซ้าย และกลางขวา ต่างกำลังแข่งขันเพื่อเสนอมาตรการที่เคร่งครัดกว่าเดิมในการจัดการปัญหาอาชญากรรมในแก๊ง

แผ่นป้ายต้อนรับ หน้าทางเข้าเขตชุมชนวาร์เบอร์กา ที่เมืองเออเรบรู ในเขตภาคกลางตอนล่างของสวีเดน

แม้รัฐบาลจะแนะนำหรือเสนอมาตรการใหม่เป็นจำนวนมาก เช่น การจ้างตำรวจเพิ่ม รวมถึงการทำให้การเฝ้าระวังอาชญากรต้องสงสัยทางอิเล็กทรอนิกส์ง่ายขึ้น และการตัดสินโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับอาชญากรรมรุนแรงและการครอบครองอาวุธปืน แต่ฝ่ายค้านต้องการมากกว่านี้

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปไตยสวีเดนเพิ่มความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วยการประณามปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และความล้มเหลวในการรวม “ชาวสวีเดนใหม่” กว่า 2 ล้านคน ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา อีกทั้งพวกเขายังกล่าวโทษอดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน สำหรับสิ่งพวกเขาเรียกว่าเป็น “นโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่ขาดความรับผิดชอบ”

นอกเหนือจากการส่งผู้ขอลี้ภัยที่มีความผิดฐานก่ออาชญากรรมกลับไปยังประเทศบ้านเกิดแล้ว พรรคประชาธิปไตยสวีเดนต้องการแผนการริเริ่มในวงกว้างที่จะส่งผู้อพยพกลับไปเช่นกัน ทั้งการลดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการสนับสนุนให้พวกเขาออกไป

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมักดาเลนา แอนเดอร์สสัน ผู้นำสวีเดน ออกมายอมรับเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาว่า สวีเดนล้มเหลวในการรวมผู้อพยพที่รับเข้ามาตลอดช่วง 2 ทศวรรษก่อนหน้านี้ และมันได้นำไปสู่ปัญหาสังคมคู่ขนาน และความรุนแรงในแก๊ง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS