ขึ้นชื่อว่าการลงทุน! ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น!! ต่อให้เพย์เซฟกันเต็มที่ แต่ความแน่นอน…ก็คือ…ความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น!! หวย!! ทอง!! เงิน!! มีขึ้นก็ต้องมีลง มีได้..ก็ต้องมีเจ๊ง ซึ่งเป็นสัจธรรมของโลกใบนี้อยู่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในตลาดโลก ส่งผลให้โลกทั้งโลกต้องซวนเซ อย่างที่เผชิญกันอยู่ทุกวัน การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหลาย ทั้งหุ้น ทั้งเงินไฮเทค หรือคริปโตเคอร์เรนซี ต่างย่อยยับอัปปาง กันเป็นแถว

บรรดาเศรษฐีใหม่วัยเยาว์… กลายเป็นยาจกทันตาเห็น ก็มีจำนวนไม่น้อย เจ็บตัวเลือดสาด กันก็มาก หลังจากบริษัทด้านคริปโตฯ ทั่วโลกล้มกันระเนนระนาด

แถมยังส่งผลกระทบมายังบริษัทของไทย อย่าง บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) อีกต่างหาก ที่กำลังวัดดวงกันว่า ความเสียหายเฉียด 2 พันล้านบาท ที่โยกสินทรัพย์ของลูกค้าไปไว้ที่บริษัทแม่ในสิงคโปร์ จะแก้ปัญหาอย่างไร

จนบรรดาเจ้าของสินทรัพย์ ทั้งรายใหญ่รายย่อย เตรียมตบเท้าเข้าพบคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. หน่วยงานกำกับดูแล ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.นี้

อย่างไรก็ตามสารพันปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในตลาดคริปโตฯ รอบนี้ ทำให้บรรดานักลงทุนระดับโลก ต่างออกมาเปรียบเปรยในเรื่องของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีแบบเห็นภาพ

“วอร์เรน บัฟเฟตต์ ” ระบุว่า บิตคอยน์นั้นไร้ค่า แต่กลับอ้างว่าตัวเองมหัศจรรย์ หรือ “บิล เกตส์” ที่มองว่า คริปโตฯ คือ ทฤษฎีคนโง่กว่าล้วน ๆ

นิเวศน์ เหมวชิรวรากร – กูรูการเงินและนักเขียนชื่อดัง

ขณะที่…กูรูการเงินและนักเขียนชื่อดัง อย่าง “นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ก็ได้ออกมาเขียนในบทความส่วนตัวเช่นกันว่า “อวสานของคริปโตฯ ได้มาถึงแล้ว”

แม้แต่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ซึ่งตามข้อมูลของ บิทคอยน์ ดอท คอม เอง ระบุว่า ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดเงินและตลาดทุน ไอเอ็มเอฟ ได้ออกมาเตือนว่าตลาดคริปโตฯ อาจต้องเจอกับแรงเทขายเพิ่มขึ้น และ เหรียญคริปโตฯ อาจเผชิญหน้ากับความล้มเหลวมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ!! ไอเอ็มเอฟ เอง ยังคาดว่าตลาดคริปโตฯ จะยังคงปรับตัวลงต่อไปท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอาจมีเหรียญที่ต้องประสบชะตากรรมและล่มสลายไปเช่นเดียวกับ LUNA ที่น่าสนใจยิ่งกว่า… น่าจะเป็นเรื่องที่ไอเอ็มเอฟ บอกว่า แม้การควบคุมเหรียญคริปโตฯ อาจเป็นเรื่องที่ยาก

แต่!! การควบคุมจุดเริ่มต้นของเหรียญคริปโตฯ อย่าง เว็บเทรด หรือ ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินหรือวอลเล็ท เพื่อลงทุนในเหรียญเหล่านั้น น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากกว่า

ด้านบรรดากูรู นักลงทุนการเงิน ของไทยเองหลายคน ต่างออกมาเรียกร้อง ต่างออกมาเรียกร้องให้ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบบริษัทที่ให้บริการเหรียญคริปโตฯ ในไทยอยู่ในเวลานี้ ว่า แต่ละบริษัทนั้นมีทรัพย์สินดิจิทัลของลูกค้า อยู่ครบทั้งหมดหรือไม่?

ขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบด้วยว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านั้น เคลื่อนย้าย โอนย้าย ไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง? ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทย

แม้หน่วยงานกำกับดูแล จะยืนยันชัดเจนว่า กฎหมายกำกับดูแลคริปโตฯ นั้นระบุไว้ชัดเจนว่าศูนย์ซื้อขายห้ามแตะต้องทรัพย์สินของลูกค้า”

แต่ในเวลาเดียวกัน เรื่องของข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน การจะดำเนินการใด ๆ อาจไม่สามารถบ่งชี้ความผิดได้ ก็จำเป็นที่ต้องรอดูข้อมูลที่ชัดเจน ที่ครบถ้วน ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ บรรดานักลงทุน ลูกค้าทั้งหลาย คงต้องอดใจรอดูว่า กฎหมายปัจจุบันที่มีอยู่ และหน่วยงานที่กำกับดูแล จะโชว์ฝีมือเพื่อคุ้มครองดูแลผลประโยชน์ให้กับนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”