@@@@ ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 102 รายในวันเสาร์ที่ที่ 23 กรกฏาคม 2565 รัฐวิกตอเรียรายงานผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้ป่วยในโรงพยาบาล 820 ราย และผู้ป่วยรายใหม่ 10,812 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีผู้เสียชีวิต 41 ราย ผู้ป่วย 2,176 รายอยู่ในโรงพยาบาล และผู้ป่วยรายใหม่ 14,953 ราย รัฐควีนส์แลนด์ เสียชีวิตเพิ่ม 8 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,061 ราย และผู้ป่วยรายใหม่ 7,644 ราย

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยในโรงพยาบาล 354 ราย และผู้ป่วยรายใหม่ 3,864 ราย Australian Capital Territory มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วย 145 รายอยู่ในโรงพยาบาล และผู้ป่วยรายใหม่ 1,044 ราย รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้ป่วยในโรงพยาบาล 430 ราย และผู้ป่วยรายใหม่ 5,051 ราย รัฐแทสเมเนียพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 รายและผู้ป่วยรายใหม่ 1,363 ราย นอร์เทิร์นเทร์ริทอรีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 422 รายและผู้ป่วยในโรงพยาบาล 89 ราย ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “โควิดจะไม่หายไป ออสเตรเลียจะต้องวางมาตรการด้านสาธารณสุขใหม่ในอนาคตอันใกล้ ความไม่เท่าเทียมกันของวัคซีนและรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ทำให้อนาคตของการระบาดใหญ่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น”

หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสชั้นนำของออสเตรเลียได้ออก “เรียกร้องให้ดำเนินการ” โดยกล่าวว่าเราจำเป็นต้องนำข้อจำกัดมาใช้ใหม่ เช่น หน้ากากอนามัย เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 และการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ศาสตราจารย์โรเบิร์ต บูย์ Robert Booy ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ กล่าวว่า ทุกคนควร “กังวล” เกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาและเสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศกำลังเข้าใกล้จำนวนการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วง Omicron ระลอกแรกในเดือนมกราคม “เราควรตื่นตัว แต่ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เราต้องทำสิ่งที่เราทำเมื่อ 6 เดือนที่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เช่น สวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือ และทำงานจากที่บ้านหากเป็นไปได้ ตัวเลขมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับมกราคม…เราเกือบ 100 รายเสียชีวิตต่อวัน”

สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลียระบุว่าภายในวันที่ 31 มกราคม มีผู้เสียชีวิตจากหรือติดเชื้อโควิด-19 2,639 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต Professor Robert Booy อธิบายว่าการแพร่เชื้อในปัจจุบันนั้นได้รับเชื้อจากสายพันธุ์ Omicron สายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อได้มากกว่า สายพันธุ์ Centaurus “ปัญหาของตัวแปรใหม่นี้ แม้ว่าจะมี Omicron มาก่อน หนึ่งเดือน สองเดือน หรือ 3 เดือนที่แล้ว คุณก็สามารถรับ Omicron นี้ได้อีกครั้ง” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าพบสายพันธุ์นี้ใน 15 ประเทศ

“ CHO และ ATAGI กล่าวว่าอาจเป็นช่วงเดือนแรกหลังจากการติดเชื้อครั้งก่อน คนส่วนใหญ่จะติดได้ภายในสอง, สาม, สี่เดือนหลังจากนั้น “มันค่อนข้างเร็ว” ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อกล่าวเสริมว่า หากประเทศสามารถลดอัตราการแพร่เชื้อได้ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ความกดดันจะลดน้อยลงสำหรับโรงพยาบาล “เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ลดการติดต่อของคุณกับเพื่อนมนุษย์เท่าที่จำเป็น” เขากล่าว “การทำงานจากที่บ้านช่วยได้”

ส่วนโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์ Foot and mouth disease (FMD) ที่เป็นโรคระบาดติดต่อร้ายแรงของปศุสัตว์ทำให้เกิดไข้ตามมาด้วยการพัฒนาของถุงน้ำ (ตุ่มพอง) ส่วนใหญ่ในปากและที่เท้าของวัว หมู แกะ แพะและสัตว์ที่มีกีบเท้าอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้ว ถึงแม้ FMD จะไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ที่โตเต็มวัย แต่มันสามารถฆ่าสัตว์เล็กและทำให้สูญเสียการผลิตอย่างร้ายแรง ประเทศออสเตรเลียเตรียมพร้อมตอบสนองด้านความปลอดภัยทางชีวภาพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพื่อหยุดโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์ที่แพร่ระบาดในอินโดนีเซียแบบความคุมไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของประเทศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 กรกฏาคม 2565 ผู้เดินทางที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียทุกคนจะต้องทำความสะอาดรองเท้าและเดินบนเสื่อเพื่อสุขอนามัย เพื่อป้องกันการระบาดที่อาจทำลายอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของออสเตรเลีย รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร นายเมอร์เรย์ วัตต์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ความปลอดภัยทางชีวภาพใหม่ที่ “บังคับ” ให้นักเดินทางทำความสะอาดรองเท้าเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินทั่วออสเตรเลีย “ผมกังวลเกี่ยวกับรายงานที่ไม่ค่อยพบนักว่าผู้เดินทางกลับบางคนไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเมื่อกลับมาจากอินโดนีเซีย” วัตต์กล่าวในแถลงการณ์ “ คำสั่งเหล่านี้เสริมความแข็งแกร่งและขยายอำนาจของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางชีวภาพเพื่อสั่งการให้ผู้โดยสารใช้เสื่อเท้าและมาตรการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพอื่นๆ เช่น การทำความสะอาดรองเท้า” การสร้าง “โซนการตอบสนองด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ” หมายความว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางชีวภาพมีอำนาจสั่งการผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งหมดให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัย อำนาจใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนโดยไม่มีการวิจารณ์จากผู้โดยสารแต่อย่างใด “เห็นได้ชัดว่าผมมาจากอินโดนีเซีย แล้วพอเดินผ่าน ก็ declare รองเท้าของผมและรองเท้าเหล่านั้นถูกนำไป ฆ่าเชื้อ กลับมาหาผม และผมก็สามารถเดินทางต่อไปไหนๆได้” ผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าว ขณะที่ออสเตรเลียยังคงปลอดไวรัส ความกังวลก็เพิ่มสูงขึ้นหลังจากตรวจพบชิ้นส่วนไวรัสในเนื้อหมูในเมลเบิร์นและเนื้อวัวที่สนามบินแอดิเลดยึดได้ รัฐบาลสหพันธรัฐ Federal governmentกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการปิดพรมแดนอินโดนีเซียเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจต้องสูญเสียเงินสูงถึง 80,000 ล้านดอลลาร์หากมีการแพร่ระบาด นางคาเรน แอนดรูว์ รัฐมนตรีเงากระทรวงมหาดไทย เป็นหนึ่งในผู้เรียกร้องให้ปิดพรมแดน แอนดรูว์สกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่พรรคแรงงานสามารถใช้วิธีการอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล” แต่ นายโทนี่ มาฮาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ National Farmers’ Federation CEOกล่าวว่า การปิดพรมแดนโดยไม่จำเป็นอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายที่ทำลายภาคปศุสัตว์ของประเทศ “เราไม่ต้องการทำอะไรที่จะทำลายความสัมพันธ์กับพวกเขาโดยไม่จำเป็น” เขากล่าว

ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 102 รายในวันเสาร์ที่ที่ 23 กรกฏาคม 2565 ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โควิดจะไม่หายไป ออสเตรเลียจะต้องวางมาตรการด้านสาธารณสุขใหม่ในอนาคตอันใกล้ ให้นำข้อจำกัก สวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม และล้างมือ กลับมาใช้

รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร นายเมอร์เรย์ วัตต์ ประกาศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 กรกฏาคม 2565 ผู้เดินทางที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียทุกคนจะต้องทำความสะอาดรองเท้าและเดินบนเสื่อ เพื่อป้องกันการระบาดที่อาจทำลายอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของออสเตรเลีย

@@@@ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลียในปี 2565 และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราขอเชิญชวนคนไทยในนครเพิร์ทและพื้นที่ใกล้เคียงชมการฉายไฟสีธงชาติไทยบนอาคารที่ทำการนครเพิร์ท (Council House) ระหว่างวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.30 – 21.00 น. และ ที่ Trafalgar Bridge ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ตลอดทั้งคืน ขอเชิญท่านถ่ายรูปเพื่อโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พร้อม #mitrmate  #70yearsThailandAustralia #70yearsThaiAus #70ปีไทยออสเตรเลีย#70ปีไทยออส ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณนครเพิร์ทที่สนับสนุนการฉายไฟดังกล่าว ด้วย

นครเพิร์ฉายไฟสีธงชาติไทยบนอาคารที่ทำการนครเพิร์ท (Council House) และ ที่ Trafalgar Bridge เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลียในปี 2565 และเพื่อเทิดพระเกียรติ ระหว่างวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2565

@@@@ วัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย มีกำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติไทยขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ​๒๕๖๕ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง เพื่อจัดกิจกรรมวันแม่ของชาวไทย และเพื่อส่งเสริมความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก จึงได้จัดกิจกรรมประกอบด้วย 1. ทำบุญวันแม่แห่งชาติไทย 2. ทำบุญผ้าป่าวันแม่ 3. ออกโรงทานวันแม่ 4. พิธีถวายสักการะสมเด็จพระชนนีพันปีหลวง 5. การประกวดร้องเพลงวันแม่ ดังนั้น จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมทำบุญวันแม่แห่งชาติไทย และร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

ขอเชิญร่วมประกวดร้องเพลงวันแม่ ปี ๒๕๖๕ การประกวด มี ๒ รุ่น คือ ๑. รุ่นเยาวชน อายุตั้งแต่ ๕ – ๑๕ ปี ๒. รุ่นผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ ๑๖ ขึ้นไป วิธีการประกวด ผู้ประกวดส่งวิดีโอร้องเพลงวันแม่แบบครอบครัว หรือแบบเดียวๆมาทางวัดไทยพุทธาราม ให้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คของวัดไทยพุทธาราม โดยให้ผู้ชมได้กดไลค์ตัดสิน ผู้ได้รับการกดไลค์มากที่สุดจะได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลอื่น ๆ ตามลำดับ วันและเวลาการประกวด เริ่มรับสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ และหมดเขตรับสมัครวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นี้ และจะโพสต์ลงในเพจของวัดไทยพุทธารามวันที่ ๕ สิงหาคม – วันที่ ๑๓ สิงหาคม เพื่อให้ผู้ชมได้กดไลค์ต่อไป ผู้มีความสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ วัดไทยพุทธาราม เบอร์โทร 07 3806 8900 หรือ 0413158826

@@@@ เมื่อวันที่ 12 และ 14 กรกฎาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้ให้การต้อนรับคณาจารย์ ข้าราชการ และนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 แห่งวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ในโอกาสที่คณะฯ ได้เดินทางเยือนเครือรัฐออสเตรเลีย และศึกษาดูงานที่กรุงแคนเบอร์รา รวมถึงเข้าเยี่ยมคารวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ในการนี้ นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ เอกอัครราชทูตฯ ได้บรรยายสรุปภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและออสเตรเลียในมิติต่าง ๆ เช่น การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งความสัมพันธ์ในภาคประชาชน ในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรเลีย และเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันและอาหารค่ำเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเพิ่มเติมกับคณะฯ ด้วย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้ให้การต้อนรับคณาจารย์ ข้าราชการ และนักศึกษา หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 แห่งวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เมื่อวันที่ 12 และ 14 กรกฎาคม 2565

@@@@ วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๕ วัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ได้จัดงานทำบุญวันเข้าพรรษา ประจำปี ๒๕๖๕ ขึ้น เพื่อเผยแผ่และอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของชาวพุทธ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา และเพื่อให้สาธุชนทั้งหลายมาประกอบกิจกรรมร่วมกัน โดยมีการทำบุญถวายเทียนพรรษา ทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝน ทำบุญถวายผ้าป่า และทำบุญออกโรงทานการกุศล เป็นต้น

ในเบื้องต้น วัดไทยพุทธารามได้จัดให้มีการแสดงดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย เพื่อส่งเสริมและเผยแผ่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้ผู้มาร่วมงานได้ชม และเพื่อให้เยาวชนไทยในนครบริสเบนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมงานบุญ ได้แสดงออกถึงความเป็นไทย และมีความภูมิใจในความงดงามแบบไทย โดยมีครูปลา และครูอาย นำลูกศิษย์ที่เป็นเด็กๆมาแสดงได้อย่างงดงามอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาขอบคุณนักแสดงทุกท่านด้วย

ต่อมา พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้ประกอบพิธีแห่เทียนพรรษารอบศาลาหลวงพ่อไพบูลย์ โดยทางวัดได้จัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ มีผู้อัญเชิญเทียนคู่ใหญ่ขึ้นเสรียงจุนแห่รอบศาลา กลองยาวโหมขบวนนำหน้า พุทธศาสนิกชนเดินแห่กันอย่างน่าดูน่าชม เมื่อแห่เสร็จ พุทธศาสนิกชนเดินเข้าภายในศาลา และนั่งเรียบร้อย ทางวัดจึงเริ่มประกอบพิธีทำบุญไหว้พระรับศีลและฟังธรรมเทศนา แสดงโดย พระจตุรงค์ สิริจนฺโท พระธรรมทูตรูปใหม่ เสร็จแล้วจึงประกอบพิธีทำบุญถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และถวายผ้าป่า พระสงฆ์รับบิณฑบาตและฉันเพล ญาติโยมทานอาหารโรงทานร่วมกัน

วัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ได้จัดงานทำบุญวันเข้าพรรษา ประจำปี ๒๕๖๕ ขึ้น เพื่อเผยแผ่และอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของชาวพุทธ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕

@@@@ ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เรื่อง  การรับสมัครลูกจ้างชั่วคราวในต่างประเทศ ตำแหน่งเสมียน (ปฏิบัติงานฝ่ายกงสุล) ด้วยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา จะเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไป เพื่อบรรจุเป็นลูกจ้างชั่วคราวในต่างประเทศ ตำแหน่งเสมียน (ปฏิบัติงานด้านการกงสุล) จำนวน ๑ อัตรา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ตำแหน่งที่รับสมัคร ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวในต่างประเทศ ตำแหน่งเสมียน (ปฏิบัติงานด้านการกงสุล) จำนวน 1 อัตรา อัตราค่าจ้าง เริ่มต้นที่ 3,599.- ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเดือน ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป การรับสมัคร 1.ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้ ตั้งแต่บัดนี้ – 19 สิงหาคม 2565 เวลา 17.00 น. 2. ช่องทางการยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐาน 2 ช่องทาง ดังนี้ (2.1) ยื่นด้วยตนเองระหว่างวันและเวลาราชการ (09.00-17.00 น.) ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา (Royal Thai Embassy) ที่อยู่ 111 Empire Circuit, Yarralumla, ACT 2600 (2.2) ยื่นทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ [email protected] หัวเรื่อง “สมัครงาน” ภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เวลา 17.00 น. 3. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในวันและเวลาราชการที่หมายเลขโทรศัพท์ (612) 6206 0100

@@@@ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ผู้บริหารบริษัท Enserv Holding ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนในออสเตรเลีย ได้แก่ คุณธนชัช โพชนา ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฯ นาย Mark Gustowski กรรมการผู้จัดการบริษัท Enserv Australia และ นาย Graham Holmbergcer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินบริษัท Enserv Australia ได้เข้าพบเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราเพื่อหารือถึงโอกาสและแนวทางในการส่งเสริมธุรกิจของ Enserv ในออสเตรเลีย ภายหลังการเป็นวิทยากรในงานสัมมนาออนไลน์หัวข้อ Bio-Circular-Green Economy Innovation Exchange ของสถานเอกอัครราชทูตฯ บริษัท Enserv ขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานอาทิตย์ และเทคโนลีการกักเก็บพลังงาน โดยบริษัท Enserv ริเริ่มและสนับสนุนการพัฒนาแบตเตอรี Lithium Sulphur และการผลิต graphene จากน้ำตาลในออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วิจัยและพัฒนาการนำกล้วยหินมาเป็นองค์ประกอบในการปรุงอาหารเป็น “super food” เพื่อสุขภาพ ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Enserv ได้ที่ https://www.enservpower.com/ และสามารถฟังการนำเสนอธุรกิจของบริษัท Enserv ในวิดิโอบันทึกสัมมนาออนไลน์หัวข้อ Bio-Circular-Green Economy Innovation Exchange ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่ https://fb.watch/e4y2Xj8mkU/

ผู้บริหารบริษัท Enserv Holding ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนในออสเตรเลีย ได้เข้าพบเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราเพื่อหารือถึงโอกาสและแนวทางในการส่งเสริมธุรกิจในออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565

@@@@ ในช่วงเดือนกรกฏาคม 2565 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้ต้อนรับคณะข้าราชการและนักศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 จำนวน 3 กลุ่ม ในโอกาสเดินทางศึกษาดูงาน ณ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษา โดยในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้เลี้ยงอาหารค่ำและบรรยายสรุปเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของประเทศออสเตรเลียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ชุมชนไทย และภารกิจของสถานกงสุลใหญ่ฯ ให้แก่คณะ นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานและนำคณะศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ Sydney Startup Hub และ Stone & Chalk เพื่อรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการส่งเสริมผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและผู้บริโภค อันจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจองค์รวมของประเทศในโลกอนาคตได้ต่อไป

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้ต้อนรับคณะข้าราชการและนักศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 จำนวน 3 กลุ่ม ในโอกาสเดินทางศึกษาดูงาน ณ ออสเตรเลีย ในช่วงเดือนกรกฏาคม 2565

@@@@ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 นาย David Van สมาชิกวุฒิสภาออสเตรเลีย (รัฐวิกตอเรีย) และประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาออสเตรเลีย-ไทยได้ขอพบพลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ สมาชิกวุฒิสภาและประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ออสเตรเลีย ที่อาคารรัฐสภา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อแนะนำตัวและแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี ในโอกาสดังกล่าว นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการหารือด้วย

นาย David Van สมาชิกวุฒิสภาออสเตรเลีย (รัฐวิกตอเรีย) และประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาออสเตรเลีย-ไทยได้ขอพบพลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ สมาชิกวุฒิสภาและประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ออสเตรเลีย ที่อาคารรัฐสภา

ไตรภพ ซิดนีย์
[email protected]