นึกว่าสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) หาร 500 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะขลัง! แต่ที่ไหนได้ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

แชมป์เก่าอดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แต่เพิ่งย้ายมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ่ายแพ้หมดรูปให้กับผู้สมัครจากพรรคเสรีรวมไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่างกันกว่า 25,000 คะแนน ทั้งที่ ร.อ.ธรรมนัส คุมทัพ ส.ส.ลงไปช่วยผู้สมัครของตนหาเสียงอยู่หลายวัน

เอาว่าถ้าเทียบฟอร์มคณะหาเสียงกันแล้ว ฝั่งของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เทียบไม่ติดฝุ่นกับคณะของ ร.อ.ธรรมนัส ก็แล้วกัน แต่ผลการเลือกตั้งของพรรคใหม่อย่าง “เศรษฐกิจไทย” เพิ่งชิมลางสนามการเลือกตั้งครั้งแรกในถิ่นภาคเหนือ แต่ผู้สมัครของพรรคได้มาแค่ 30,451 คะแนน ถือว่าฤกษ์ไม่ดี เป็นไปได้อย่างไร ที่พรรคใหม่ได้มาแค่ 3 หมื่นกว่าคะแนน

อาจเป็นเพราะ “กระสุนด้าน” หรือพี่น้องชาวลำปางเขต 4 ต้องการสั่งสอนนักการเมืองประเภทกลับไปกลับมา เหยียบเรือสองแคม

แต่ที่แน่ ๆ 3 วันต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ให้ 2 ส.ส.ของพรรคลาออกจาก “วิปรัฐบาล” และวันต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ประกาศเป็นฝ่ายค้าน 100% พร้อมโทรฯ ไปเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังบอกด้วยว่า ประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ไม่เอารัฐบาลชุดนี้แล้ว!

พูดง่าย ๆ ว่า ร.อ.ธรรมนัสรู้สถานการณ์ รับรู้อารมณ์ของชาวบ้านต่างจังหวัดเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เขาต้อง “ชัดเจน” ด้วยการประกาศถอนตัวออกมาจากรัฐบาล ไม่อยู่กับพวกสูตร 500 อีกต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ ทำรัฐประหาร บริหารประเทศมา 8 ปี ถ้าทำให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ดีมีสุข มีกิน มีใช้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น ต้องมีคนรักใคร่มากมาย เวลาไปต่างจังหวัดต้องมีผู้คนออกมาต้อนรับแบบเป็นธรรมชาติ

แต่สภาพความเป็นจริงมันกลับกัน พล.อ.ประยุทธ์ ไปไหนต้องปิดถนน ปิดเมือง ขนาดปิดถนนแล้วยังต้องมีทหาร ตำรวจเดินห้อมล้อมรถยนต์ ไม่ต้องพูดถึงตอนไปภาคอีสาน ภาคเหนือ ต้องระดมกำลังตำรวจไม่ต่ำกว่า 2 พันนาย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย แถมมีการสแกนละเอียดยิบ ตรวจอาวุธของมีคมทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่กรรไกรตัดเล็บ หนังสติ๊ก และห้ามพกปากกาเข้าใกล้นายกฯ

ทุ่มตร.กว่า 2 พันนาย ปกป้อง "ประยุทธ์" มาเชียงใหม่ ม็อบไล่ให้ลาออก FC  ลุงตู่ จัดกลุ่มต้อนรับ - มติชนสุดสัปดาห์

เมื่อปี 64 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แยกกันชัดเจนไปเลยว่าเลือกคน-เลือกพรรค แก้ปัญหา “บัตรเขย่ง-ส.ส.ปัดเศษ-ส.ส.1,700” เพื่อให้การคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ผิดเพี้ยนเหมือนคราวที่แล้ว

ดังนั้นเมื่อใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แยกคะแนนของผู้สมัคร ส.ส. และคะแนนของพรรคชัดเจนแล้ว ก็ควรใช้สูตร 100 หาร ตามจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเอา 500 หาร พี่น้องชาวลำปางเขต 4 จึงประเดิมสั่งสอนผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นคนแรก

ส่วนการเลือกตั้งคราวหน้า ประชาชนรู้ดีว่าต้องเลือกพรรค และเขาจะเลือกพรรคไหน! ดังนั้นเพื่อความชัดเจนแต่เนิ่น ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ควรบอกไปเลยว่าเที่ยวหน้ายังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม

แล้วถ้าได้ตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้สูตรเดิมๆ  คือกอดคออยู่กับพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่เปลี่ยนแปลง!!

—————————
พยัคฆ์น้อย