เพื่อสำรวจพิกัดแหล่งที่อยู่อาศัย ระบบนิเวศ ลักษณะทางกายภาพ องค์ความรู้ท้องถิ่นเกี่ยวกับเต่าปูลู และแนวทางการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลูโดยชุมชน โดยการสำรวจพื้นที่ สัมภาษณ์ชุมชน โดยนำกระบวนการวิจัยชาวบ้านหรืองานวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมมาใช้ร่วมกับเชิงวิทยาศาสตร์โดยการตรวจหา EDNA จากตัวอย่างน้ำ จากการสำรวจของทีมงานสมาคมฯ ทั้ง 10 ชุมชน ได้แก่ บ.ม่วงชุม บุญเรือง ห้วยซ้อ งามเมือง ป่าบง ห้วยสัก คะแนง ทุ่งศรีเกิด ห้วยไคร้ และบ้านชมภู ทั้ง 10 ลำห้วยพบว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเต่าปูลู เคยมีชุกชุมในอดีต แต่ปัจจุบันลดลง และค่อนข้างหายาก ภัยคุกคามเกิดจากการบุกรุกพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจ สารเคมีการเกษตร ป่าต้นน้ำแห้งขอด ปูปลาสัตว์น้ำขนาดเล็กหายไปจากห่วงโซ่อาหาร ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การล่าส่งขายเป็นยาบำรุง ชาวบ้านทั้ง 10 ชุมชนต่างให้ข้อมูลเป็นเสียงเดียวกันว่ามีชาวบ้านกลุ่มคนชาติพันธุ์จะมาล่าเป็นทีมโดยใช้ตะขอเหล็กขูดตามท้องห้วย จับช่วงน้ำหลากเพื่อนำไปขายได้ทีละเป็นกระสอบ แต่คนท้องถิ่นไม่นิยมจับกินเพราะตัวเล็ก เจอไม่บ่อย อีกอย่างมีความเชื่อเรื่องเต่าที่อายุยืนเลยไม่ค่อยกล้ากิน

นายอินทร์คำ สอนแก้ว ชาวบ้านป่าบงน้ำล้อม ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย กล่าวว่า การจะหาเต่าปูลูพบเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน และอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำในป่าลึก เมื่อหลายปีก่อนพบเห็นได้ง่าย แต่ปัจจุบันพบยากมาก เพราะเหลือน้อยและเป็นสัตว์อนุรักษ์ สาเหตุที่เหลือน้อยเพราะส่วนหนึ่งเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า ทำให้หนีศัตรูไม่ทัน ส่วนมากจะอาศัยการพรางตัวกับก้อนหิน ปัจจุบันชาวบ้านไม่จับแล้วเพราะต้องการอนุรักษ์เอาไว้

นายเกรียงไกร แจ้งสว่าง เจ้าหน้าที่สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต กล่าวว่า การพบเต่าปูลูเป็นครั้งแรกหลังจากสำรวจมา 7 เดือน ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลูโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนลุ่มน้ำอิงตอนปลาย นอกจากเต่าปูลู ทีมเรายังสำรวจพบ เต่าเหลือง เต่านา เต่าบัว เต่าจัก ตะพาบ ตะพาบไต้หวัน เต่าบก อีก 6 ชนิด ซึ่งการพบเต่าปูลูในครั้งนี้เป็นตัวชี้วัดว่าระบบนิเวศของป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เพราะเต่าชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำสะอาด และมีสัตว์น้ำที่เป็นอาหารจำนวนมาก.