ด้วยการใช้ประโยชน์จากการให้ความสนใจในการค้าของรัฐบาลปักกิ่งที่มีต่อประเทศในทวีปแอฟริกา เพื่อลดช่องว่างการขาดดุล เคนยาตกลงทำการค้าขายอะโวคาโดสดกับจีนเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากพยายามวิ่งเต้น การหาหนทางเข้าสู่ตลาดมานานหลายปี ซึ่ง 6 เดือนหลังจากนั้น ไม่มีการขนส่งหลงเหลืออยู่เลย
ขณะที่ผู้ส่งออกอะโวคาโด 10 ราย ผ่านการตรวจสอบของเคนยา ตอนนี้จีนต้องการที่จะทำการตรวจสอบด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่ออ้างอิงจากประสบการณ์ในอดีตของผู้ผลิตผลไม้ชาวแอฟริกันบางคนแล้ว มันอาจต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี เพื่อให้จีนอนุมัติ
อย่างไรก็ตาม การยกระดับการส่งออกสินค้าเกษตร เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันน้อยนิดที่หลายประเทศในแอฟริกา ต้องปรับสมดุลความสัมพันธ์การค้าขายกับจีนใหม่ และหาสกุลเงินแข็งที่พวกเขาต้องการ เพื่อจัดการกับปัญหาหนี้สินก้อนใหญ่
ผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวว่า ในทางทฤษฎี เกษตรกรรมคือเส้นทางที่มีความหวังมากที่สุด เนื่องจากจีนคือผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่ภาคการเกษตรในแอฟริกา เป็นผู้นำทั้งเรื่องนายจ้างและผู้มีส่วนช่วยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การค้าขายระหว่างจีนกับแอฟริกา จึงเป็นทางเลือกที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ด้วยกัน
แม้จีนจะให้แอฟริกากู้เงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างทางรถไฟ, โรงไฟฟ้า และทางหลวง พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับทวีปแอฟริกา แลกกับการดึงทรัพยากรแร่ธาตุและน้ำมันไปใช้ แต่ข้อมูลศุลกากรจีน กลับแสดงให้เห็นว่า ประเทศในแอฟริกามากกว่า 3 ใน 4 มีสภาพขาดดุลการค้ากับรัฐบาลปักกิ่ง
ด้านนายอู๋ เผิง อธิบดีกรมแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ความไม่สมดุลเช่นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยเจตนา พร้อมยืนยันว่า จีนมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาอย่างสมดุลของการค้าจีน-แอฟริกา เสมอมา
แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับบางประเทศ เช่น เคนยา ประสบความลำบากในการหาประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ เนื่องจากระบบการตรวจสอบของจีนต้องผ่านทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์ แตกต่างจากสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบแค่ผลผลิตเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคน กล่าวว่า จีนพลาดวิธีอื่น ๆ ที่จะเร่งการเข้าถึงตลาด ซึ่งรัฐบาลปักกิ่ง อาจเจรจาข้อตกลงการค้าแบบกว้างกับประเทศในแอฟริกาและกลุ่มประเทศในภูมิภาค ดังเช่นที่อียูทำ แต่จีนยังคงทำการตกลงทางการค้าแบบทวิภาคี และเจาะจงทำเฉพาะกับผลิตภัณฑ์บางรายการเท่านั้น จึงมีการเสนอว่า จีนควรเปิดกว้างกว่านี้อีกสักนิด.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : REUTERS
