ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำท่าจะกลับมาอีก เพราะเชื้อมันไว จึงติดกันง่าย แม้จะฉีดวัคซีนหลายเข็มก็ตาม
นอกจากโควิดแล้ว ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือเรื่องเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ขึ้นไปถึง 7.10% ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดเดือน มิ.ย.65 ปาเข้าไป 7.66%
เงินเฟ้อสูง ขณะที่ราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้มก็พุ่งพรวดอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว จึงส่งผลกลายเป็นวิกฤติพลังงาน และวิกฤติเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน
เมื่อเกิดปัญหาเงินเฟ้อ สินค้าจึงขยับขึ้นราคา รวมทั้งน้ำมัน ก๊าซหุงต้มก็แพงตามไปด้วย แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะเรียกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน มาระดมสมองแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนมากนัก
แต่นายกฯ ไปเอา พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) เข้ามาเอี่ยวด้วยตลอด!
ก่อนหน้านี้ เลขาฯ สมช. คือผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โควิด (ศปก.ศบค.) ซึ่งเป็นแกนในการกลั่นกรองข้อเสนอจากแพทย์-เอกชน-ประชาชน ก่อนถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ที่สวมหมวกเป็น ผอ.ศบค.
หลังสุด พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้เลขาฯ สมช. รับหน้าเสื่อเพื่อรับมือวิกฤติความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร
สุดท้ายแล้วทั้งเงินเฟ้อ น้ำมันแพง ข้าวของขึ้นราคา แต่ผู้เกี่ยวข้องได้ “รำวง” กันจนได้คณะกรรมการขึ้นมาอีก 2 ชุด คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน (อีกแล้ว) และคณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามประมวลผล วิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาทุกมิติ
ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ “ท็อปฟอร์ม” เคยตั้งองค์กรอิสระ และต่ออายุให้กันไว้พอสมควร เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานบรรดาองค์กรอิสระจึง “เคี้ยว” พล.อ.ประยุทธ์ไม่ลง!
แต่พอเจอปัญหาเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ พลังงานแพง พล.อ.ประยุทธ์และทีมงานจึงประชุมกันไปแบบมึนงง! แม้จะมีคณะกรรมการขึ้นมาอีก 2 ชุด แต่สุดท้ายยัง “รำวง” กันอยู่ว่า “รัฐบาลจะเอาเงินมาจากไหน”
โดยเฉพาะกระทรวงพลังงานของนายสุพัฒนพงษ์ออกแนว “เตาอั้งโล่” วันก่อนนายสุพัฒนพงษ์ยังบอกให้ ส.ว.ช่วยกันประหยัดไฟ ไม่ต้องใส่สูท ผูกไท ทั้งที่ควรบอกว่าไม่ต้องมี ส.ว.ลากตั้งชุดนี้ก็ได้! และควรขอร้องนายกฯ ด้วยว่าอย่าไปอีกเลยต่างจังหวัด ไปแล้วต้องขนตำรวจ 2 พันนาย มาดูแลความปลอดภัย มันสิ้นเปลืองค่าน้ำมันไปเท่าไหร่?
ที่ผ่านมาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยออกมากระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องมอบหมายให้เลขาฯ สมช. รับมือวิกฤติความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ว่า “ผิดฝา ผิดตัว” มันก็จริงเหมือนที่เขาว่านั่นแหละ
ทางที่ดี พล.อ.ประยุทธ์ควรส่งเลขาฯ สมช.ไปสำรวจบ่อน้ำมันทหาร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ขุดมาหลายสิบปีเอาไปกลั่นที่ไหน ต้นทุนค่าการกลั่นเท่าไหร่ ขุดน้ำมันดิบได้วันละกี่บาร์เรล? กลั่นแล้วนำมาขายราคาถูก ๆ ช่วยผู้ประกอบการรถบรรทุก-รถโดยสารสาธารณะได้หรือไม่? หรือว่าไม่ได้! เพราะต้องเอาไปใช้เป็น “คูปองน้ำมัน” แจกใครที่ไหนรึเปล่า?
หรือ พล.อ.ประยุทธ์ควรส่งเลขาฯ สมช. ไปหารือกับกองทัพเมียนมา ว่าต้องฝึกซ้อมนักบินเครื่องบินรบมิก-29 กันให้เก่ง ๆ ก่อนขึ้นบิน แล้วอย่า “ตีวงเลี้ยว” เข้ามาในน่านฟ้าของไทยอีก! โดย 2 งานนี้น่าจะเหมาะกับเลขาฯ สมช. มากกว่า!!
————————-
พยัคฆ์น้อย
