เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยืนยันกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเอาสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) หารด้วย 500

ดังนั้นเสียง ส.ส.บางพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อย “ฟรีโหวต” และ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน จึงต้องโหวตให้สอดรับกับ “ประยุทธ์ (หาร) 500” ส่วนฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ถึงอย่างไรเสียงก็แพ้!

พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารแล้วเป็นนายกฯ ครบ 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค. 65 จึงมีประเด็นน่าสนใจว่าเป็นนายกฯมาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ควรนับตั้งเดือน ส.ค. 57 เรื่อยมา หรือเริ่มนับจากวันที่รัฐธรรมนูญปี 60 มีผลบังคับใช้ เพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันห้ามไม่ให้เป็นนายกฯ ต่อเนื่องเกิน 8 ปี

วันก่อนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกผ่านสื่อมวลชนว่า ถ้าใครสงสัยให้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวได้เลย ไม่ต้องรอถึงวันที่ 23 ส.ค. 65 แต่รัฐบาลคงไม่ไปยื่น!

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์พูดกับสื่อฯ แบบไม่สบอารมณ์ว่า “ไม่สนใจ ใครจะยื่นก็ยื่นไป” คำว่า “ไม่สนใจ” นี่แปลความหมายได้ว่า สบายมากเพราะเคยผ่านด่านศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว 2 ครั้ง ใช่หรือเปล่า?

18 ก.ย.62 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกฯ เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

ต่อมา 2 ธ.ค. 63 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดี “บ้านพักหลวง” ในค่ายทหาร แม้จะเกษียณอายุไปแล้ว 6 ปี ว่ารัฐพึงจัดบ้านพักให้ผู้นำ เพื่อสร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกาย ใจ ในการปฏิบัติภารกิจ

เรียกว่า 2 ด่านผ่านฉลุย! เมื่อรู้อนาคตว่าต้องเจอด่านที่ 3 จึงอาจไม่สนใจ ใครจะยื่นก็ยื่นไป นี่คือประเด็นหนึ่งในสัปดาห์นี้

กับอีกประเด็นที่กล่าวไว้ตอนต้นคือ “ประยุทธ์ (หาร) 500” เป็นการซื้อใจ ส.ส.ปัดเศษ พรรคเล็ก พรรคน้อยเอาไว้ก่อน เพื่อหวังให้ช่วยยกมือสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือเปล่าก็ไม่รู้? เพราะถ้าไม่ซื้อใจช่วยกันก่อนแบบนี้ คงต้องเตรียมเหมา “กล้วย” ไว้หลายคันรถ

สรุป พล.อ.ประยุทธ์อยากอยู่ในอำนาจต่อไป 8 ปียังไม่พอ! ขณะที่คนอื่นล้มหายตายจาก ธุรกิจต้องปิดตัวกันระเนนระนาด เพราะจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 65) มีธุรกิจเลิกกิจการจำนวน 4,546 ราย เพิ่มขึ้น 17%

วันนี้ประชาชนทุกหย่อมหญ้ากำลังเดือดร้อนกันอย่างสาหัส จากปัญหาค่าครองชีพแพงมาก น้ำมันแพง ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา แต่รายได้โตไม่ทันกับภาวะเงินเฟ้อ

ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าใจหรอก! เนื่องจากวิถีชีวิตปัจจุบันใช้ของ “ฟรี” เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้วิถีทางการมาเป็นนายกฯ ก็ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนเหมือนกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ถ้าประเทศไทยมีประชาธิปไตยเต็มใบ จับต้องได้ กินได้ เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 มีการเลือกตั้งอย่างถูกต้องชอบธรรม เป็นระบบ ด้วยกฎ กติกาเหมือนสังคมโลก โดยไม่มี ส.ว.ลากตั้ง คนไทยจะได้คุณภาพของ “ผู้นำ” ไปอีกอย่าง ที่ไม่ใช่แบบ “ประยุทธ์ (หาร) 500”.

————————-
พยัคฆ์น้อย