“บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป”
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวในเชิงไม่ดีเกี่ยวกับวงการตำรวจเกิดขึ้นอีกแล้ว แม้ว่าอาจจะเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นพฤติกรรมส่วนตัว แต่ก็คงหนีไม่พ้นการโดนวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมวงกว้างถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในสายตาประชาชนไม่น้อย
เรื่องงามไส้วงการสีกากีนี้เกิดขึ้นเมื่อ น.ส.ปลา (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี นำหลักฐานเข้าร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อขอความเป็นธรรม อ้างว่าถูกตำรวจจราจรในสังกัดนครบาลยศ “ส.ต.ท.”
โดยบอกว่า “ส.ต.ท.” คนนี้เคยคบหากันมา แล้วมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ติดการพนันออนไลน์ และนำทรัพย์สินเงินทองของ น.ส.ปลา ไปจำนำรวมมูลค่านับล้านบาท ที่สำคัญเคยร้องเรียนต้นสังกัดแล้วแต่กลับได้รับคำตอบว่า “ทำได้แค่ว่ากล่าวตักเตือน”
เหตุการณ์คือปกติ น.ส.ปลา จะเปิดร้านขายของอยู่ในพื้นที่ของตำรวจนายดังกล่าว และถูกตำรวจนายนี้ล็อกล้อรถยนต์เป็นประจำจนมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน และเริ่มคบหากันมาตั้งแต่เดือน ก.ย.63 ที่ผ่านมาฝ่ายชายเอ่ยปากขอให้ช่วยใช้หนี้ให้ อ้างว่าถูกเจ้าหนี้โทรฯทวงครั้งละ 30,000 บาท
อีกทั้งยังมีการพา น.ส.ปลา ไปพบแม่และญาติๆตามต่างจังหวัด พร้อมรับปากว่าหากชีวิตดีขึ้นจะคืนเงินให้ ด้วยความที่คบหากันและสงสาร จึงโอนให้ครั้งละไม่ต่ำกว่าพันบาท
แรกๆก็มีการโอนเงินมาคืนบ้าง แต่ต่อมาเริ่มหนักขึ้นมีการนำทรัพย์สิน อาทิ เครื่องเพชร เครื่องประดับต่างๆไปจำนำ รวมตั๋วจำนำ 13 ใบ มูลค่า 380,500 บาท รวมทั้งหมดที่ยืมไปเป็นเงินหลักล้านบาท แต่เงินที่คืนมากลับได้เพียง 7,800 บาท ซึ่งเป็นค่าดอกเบี้ยโรงจำนำเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินที่ถูกนำไปจำนำยังไม่ได้คืนสักชิ้น
ตั้งแต่นั้นมา น.ส.ปลา ก็เริ่มตามสืบตรวจสอบจนรู้ว่า “ส.ต.ท.” เล่นพนันออนไลน์ เสพยาเสพติด แถมไปกู้เงินผ่านออนไลน์ พอทวงถามก็เคยรับปากว่าจะคืนเงินให้ แต่ไม่เคยได้เงินคืน จึงตัดสินใจไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด
แต่สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาของ “ส.ต.ท.” แจ้งกลับมาคือ บอกให้ไปคุยกันเอาเอง ไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด ให้เหตุผลว่าทำได้เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนไป ส่วนทรัพย์สินก็ไม่ได้คืน ส่วนเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมเสพยาเสพติด ต้นสังกัดแจ้งว่าไม่มีหลักฐานขณะเสพ
แม้ น.ส.ปลา จะไม่มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายหรือคลิป แต่ก็ยืนยันว่าเคยเห็น แต่สุดท้ายต้นสังกัดก็ไม่รับฟัง ทำให้ น.ส.ปลา รู้สึกแย่รู้สึกไม่ดี เพราะคิดว่านี่เรามาพึ่งตำรวจแต่กลับกลายเป็นแบบนี้ จึงต้องตัดสินใจมาร้อง บช.น. เพราะอยากให้ตำรวจนายดังกล่าวออกมารับผิดชอบ
เรื่องนี้บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องส่วนตัว ในขณะที่บางคนก็เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง แต่ในเมื่อมันกลายเป็นข่าวถูกตีแผ่ออกสื่อสาธารณะแล้ว มันก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและพิสูจน์หาข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นภาพลักษณ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็จะยิ่งสะเทือนและมัวหมองเข้าไปอีก.
ตำรวจชุมชนสัมพันธ์
เสริมเขี้ยวเล็บ
พ.ต.ท.วงศกร วันชัย รอง ผกก.ป.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สั่งการให้ ร.ต.อ.ภานุพันธ์ สุพันทวี รอง สวป.สภ.ชุมแพ ( อัศวิน 1 ) จัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วย อส.ตร. ฝึกทบทวนกลยุทธ์ การเข้าระงับเหตุ การเข้าตรวจค้น ต่างๆรวมถึงศึกษาข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บงานป้องกันปราบปราม ในพื้นที่ ก่อนปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่จัดระเบียบสังคมเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะยามค่ำคืน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งชุดอัศวินถือเป็นชุดเฉพาะกิจที่มีความสำคัญ เป็นกำลังหลักวิ่งเข้าเผชิญเหตุ เสริมตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ให้ความรู้ใบขับขี่
พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2กก4บก.ทล.ขอนแก่น มอบหมายให้ ร.ต.อ.พัลลภ สารคำ รอง สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. เป็นวิทยากรบรรยายเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง สาเหตุและการป้องกันอุบัติเหตุมีน้ำใจซึ่งกันและกันให้ความรู้กับผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้ขับขี่รถยนต์และรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวน 30 คน ณ ห้องอบรมใบอนุญาตขับรถ อาคาร 3 ชั้น 2 ห้องอบรมที่ 1 สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
นายตำรวจจิตอาสา
วันก่อนเห็นศึกษาธิการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมคณะครูโรงเรียนอนุบาลสุวรรณคูหา จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สร้างบ้านให้เด็กด้อยโอกาสในถิ่นไกลกลางทุ่งนา ขณะที่บ้านไร้กระแสไฟฟ้าร่วม 20 ปีขาดแคลนสาธารณูปโภค ในขณะที่ พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สุวรรณคูหา ทราบข่าวไม่ได้นิ่งนอนใจหยิบอะไรได้ในเวลานั้น เดินทางไปขอเป็นส่วนหนึ่งของแรงงาน นำเครื่องมือลงแรงผสมปูนแล้วส่งต่อให้ช่างผู้มีฝีมือทำต่อ หลังจากนั้นมอบเครื่องอุปโภคให้นายชาญ-นางพัชรินทร์ แดงนา พร้อมเด็กหญิงเอ(นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนอนุบาลสุวรรณคูหา เพื่อบรรเทาทุกข์ไปวันๆ หลังจากนั้นเยี่ยมบ้านหลังเดิมที่เคยอาศัยมาร่วม 20 ปีสอบถามไฟฟ้าจะใช้ในยามค่ำคืนก็ไม่มี ขณะที่เจ้าตัวตื่นตันใจพูดอะไรไม่ออก ได้แต่กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา หากจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่จะหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือทั้งเครื่องอุปโภค หรือทุนการศึกษา ก็ติดต่อสอบถามมาได้โทร.083 779 5398 ผกก.เสือ พร้อมขอเป็นสะพานบุญและส่งต่อ…..สาธุ มิน่าละนายใหญ่อย่าง พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู และ พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ในฐานะผู้บังคับบัญชาถึงได้ไว้วางใจในพื้นที่
***************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป