‘Black Death’ (กาฬมรณะ) หรือ ‘The Great Plague’ (กาฬโรคครั้งใหญ่) เกิดขึ้นในยุคที่ชาติตะวันตกเรียกว่ายุคกลาง (Middle Age) ราวค.ศ. 1346-1353 ซึ่งเป็นช่วงที่การแพทย์ ระบบสาธารณสุขและการรักษาสุขอนามัยของประชาชนทั่วไปยังไม่ได้มีการพัฒนาได้ดีพอที่จะรับมือโรคระบาดร้ายแรงขนาดนี้ จึงทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัด แต่คาดว่าโรคที่ระบาดไปทั่วแอฟริกา ยุโรป และเอเชียนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 ล้านคน คิดเป็น 60% ของประชากรโลกในขณะนั้น

กาฬโรคเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน และจากคนสู่คน เกิดจากแบคทีเรียชื่อว่า เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ซึ่งมีอยู่ในสัตว์ประเภทฟันกัดแทะ เช่น หนู กระรอก โดยมีตัวหมัดที่อาศัยอยู่บนร่างของสัตว์เหล่านี้เป็นพาหะ กาฬโรคถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ มีระยะฟักตัวราว 1-7 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มจากอาการหนาวสั่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน เจ็บคอ ปวดศีรษะ และต่อมน้ำเหลืองอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ก็มีโอาสเสียชีวิตสูง

แต่เดิมเชื่อกันว่า ต้นตอของการเกิดโรคนี้อยู่ในประเทศจีน แต่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ได้มีการตีพิมพ์กรณีศึกษาเกี่ยวกับต้นกำเนิดกาฬมรณะในนิตยสาร Nature ซึ่งอาศัยการอ้างอิงจากผลงานก่อนหน้านี้ของ ฟิล สลาวิน นักประวัติศาสตร์ชาวรัสเซีย โดยมีการชี้จุดเชื่อมโยงของโรคระบาดไปยังต้นกำเนิดในเมืองแห่งหนึ่งในเอเชียกลางช่วงค.ศ. 1338-1339

ในกรณีศึกษาครั้งใหม่นี้ นักวิทยาศาสตร์ในทีมวิจัยได้สกัดเอาดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนฟันของศพ 7 ศพ ในสุสานคารา-ดจิกัช ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเสสาบอือซึก-เกิล ในพื้นที่ที่ปัจจุบันนี้คือดินแดนของประเทศคีร์กีซสถาน และพบร่องรอยของแบคทีเรียเยอร์ซีเนีย เพสติส ซึ่งเป็นสาเหตุของกาฬโรค 

หลุมศพและศพเหล่านี้มีบันทึกชัดเจนว่าสร้างและบรรจุศพในปี ค.ศ. 1338-1339 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดครั้งใหญ่ พร้อมหินจารึกที่ระบุว่า ศพเหล่านี้เสียชีวิตเพราะโรคติดต่อร้ายแรง

สิ่งที่พวกเขาค้นพบนั้นขัดแย้งกับทฤษฎีเดิมที่ระบุว่า พวกชนเผ่ามองโกลเป็นผู้นำเชื้อโรคร้ายนี้มาสู่ประเทศจีน ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 13 นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า โรคนี้อาจระบาดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ด้วยซ้ำ แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนได้ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบว่าสัตว์ประเภทหนูที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ก็มีเชื้อโรคสายพันธุ์โบราณเช่นเดียวกับที่เจอในดีเอ็นเอของศพโบราณ แสดงว่าจะต้องมีการระบาดครั้งใหญ่ในละแวกนี้ก่อนที่จะเกิดการระบาดในยุโรป

กรณีศึกษานี้ก็เหมือนกับการค้นหาสถานที่ที่มีสายพันธุ์เชื้อโรคดั้งเดิม เช่นเดียวกับการค้นคว้าวิจัยในกรณีของไวรัสโคโรนา สาเหตุของโรคโควิด-19 ที่มีไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งล้วนกลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในเมืองอู่ฮั่น

ก่อนหน้านี้มีความเชื่อว่าเชื้อโรคเหล่านี้ เดินทางมาถึงท่าเรือเมสซินาบนเกาะซิซิลี โดยอาศัยเรือสินค้าที่เดินทางมาจากแถบทะเลดำราวปี ค.ศ. 1347 และอีกหลายทฤษฎีเกี่ยวกับการระบาดของกาฬมรณะ 

การค้นพบครั้งใหม่ไม่เพียงให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคระบาดเมื่อ 700 ปีก่อน แต่ยังเป็นคำตอบที่สยบทุกทฤษฎีเกี่ยวกับต้นตอของโรคระบาดมรณะที่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตมนุษย์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย

แหล่งข้อมูล : cbsnews.com, nextshark.com, pidst.or.th

เครดิตภาพ : Getty Images