หลังการพิจารณาคดีตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะลูกขุนมีมติว่า เฮิร์ดหมิ่นประมาทอดีตสามีของเธอ ผ่านการเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ เมื่อปี 2554 มีเนื้อหาเจตนามุ่งร้ายอย่างชัดเจน โดยทำให้เห็นว่า เดปป์เป็นผู้ใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเดปป์ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่องานการแสดงและรายได้ของเขาอย่างมหาศาล

คณะลูกขุนตัดสินให้เฮิร์ดชดใช้ค่าเสียหายรวม 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 515 ล้านบาท) แบ่งเป็นค่าสินไหมทดแทน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 344 ล้านบาท) และค่าเสียหายเชิงลงโทษ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 172 ล้านบาท) โดยในส่วนของเฮิร์ด เธอจะได้รับค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 69 ล้านบาท) หลังจากที่ทนายคนหนึ่งของเดปป์ กล่าวหาว่าเธอสร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งรวมถึงการจัดฉากให้เดปป์ มีความผิดของการใช้ความรุนแรง

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคน รวมถึงนายเกรก สมิธ ทนายชื่อดังของเมืองลอสแอนเจลิส และรัฐเทกซัส กล่าวว่า การที่เดปป์ต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนหนึ่งให้แก่เฮิร์ดเช่นกัน เป็นเพราะไม่สามารถแสดงหลักฐานมีน้ำหนัก ที่สามารถแก้ต่างว่า ข้อกล่าวหาเป็นเท็จได้

CNN

“ฉันคิดว่ามันเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีแก่ผู้ชายและผู้หญิง หรือไม่ก็ตามที่เป็นโจทก์ ซึ่งอย่างที่คุณรู้ คุณแค่สามารถฟ้องเหยื่อและทำลายพวกเขาโดยการพาขึ้นศาลในคดีหมิ่นประมาท” นางซูซาน ซีเกอร์ ศาสตราจารย์จากโรงเรียนกฎหมายเออร์ไวน์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าว “มันส่งสัญญาณว่า หากคุณมีเงินจ้างทนาย หรือจ้างทนายคดีหมิ่นประมาทได้ด้วยความบังเอิญ พวกเขาสามารถทำให้คุณชนะโจทก์ได้”

ด้านนางลารา เยเรตเซียน นักกฎหมายผู้มีประสบการณ์ กล่าวว่า การพิจารณาคดีดาราคนดังเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคลิกของผู้เข้าร่วมการพิจารณาคดี เช่นเดียวกันกับทนาย ซึ่งเธอเรียกเฮิร์ดว่าเป็น “พยานที่แย่” โดยให้เหตุผลว่า “เมื่อใดก็ตามที่พยานเริ่มปรุงแต่งเรื่องราว ที่เกินจริง และเกินเหตุ เมื่อนั้นพยานจะเสียความน่าเชื่อถือไป”

นอกจากนี้ เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ส่งคำเตือนไปยังโจทก์ทั้งหลาย ว่า “คณะลูกขุนส่งข้อความด้วยการตัดสินนี้อย่างชัดเจนว่า อย่าสร้างข้อกล่าวหาเท็จของความรุนแรงในครอบครัว เพราะถ้าคุณทำ ราคาที่ต้องจ่ายชดใช้มันสูงลิ่ว”

ทั้งนี้ สมิธ กล่าวว่า การพิจารณาคดีของคณะลูกขุนดำเนินการตามการเล่าเรื่อง ซึ่งในคดีของเดปป์-เฮิร์ด มันน่าประหลาดใจที่คำให้การจำนวนมากไม่มีความสัมพันธ์กันจริง จนถึงขั้นที่ผู้พิพากษาสูญเสียการควบคุมในบางครั้ง ดังเช่นในคดีดาราคนดังอื่น ๆ และเป็นการสร้างฐานที่มั่งคงสำหรับการอุทธรณ์

ขณะที่ เยเรตเซียน เน้นย้ำว่า แม้ทีมของเดปป์จะเอาชนะทีมของเฮิร์ดได้ แต่สิ่งที่เราได้รู้อย่างชัดเจนที่สุดจากคดีก็คือ ผู้ชายสามารถเป็นเหยื่อได้เช่นกัน “มีคนบอกว่าผู้ชายสามารถเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว และในฐานะทนาย ฉันเคยเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงพูดโกหก”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS