เรื่องดังกล่าวส่งผลต่อความร่วมมือในระดับโลก และความพยายามในการกดดันรัฐบาลเปียงยาง ซึ่งมีแนวโน้มทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ อีกทั้งยังนับเป็นครั้งแรกสำหรับยูเอ็นเอสซี ที่เกิดการเสียงแตกแบบนี้ นับตั้งแต่มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลเปียงยาง เมื่อปี 2549

เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายคนกล่าวว่า มันเป็น “การแตกเสียงที่รุนแรงจากบันทึกของคณะมนตรีในการปฏิบัติร่วมเกี่ยวกับปัญหานี้” แต่เอกอัครราชทูตประจำยูเอ็นของรัสเซีย เรียกวิธีแก้ไขของสหรัฐว่าเป็น “เส้นทางสู่ทางตัน” ขณะที่ทูตของจีนให้ความเห็นว่า มันมีแต่จะทำให้ “เกิดผลกระทบด้านลบ และการยกระดับการเผชิญหน้า” มากขึ้นเท่านั้น

Reuters

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์และนักการทูตบางคนกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันอาจคำนวณผิดพลาด นางเจนนี ทาวน์ ผู้อำนวยการแผนงาน 38 นอร์ธ ในสหรัฐ ที่สังเกตการณ์เกาหลีเหนือ กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับสหรัฐ ซึ่งผลักดันสิ่งที่ไม่สำเร็จอยู่แล้ว แทนการแสดงการคัดค้านที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อการกระทำของเกาหลีเหนือ”

นอกจากนี้ นักการทูตชาวยุโรปคนหนึ่ง กล่าวว่า ประเทศของพวกเขาสนับสนุนการแก้ปัญหาของสหรัฐ แต่พวกเขารู้สึกไม่ค่อยพอใจในเรื่องจังหวะเวลา และคิดว่ารัฐบาลวอชิงตันควรรอจนกว่าเกาหลีเหนือจะทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่

แม้ในช่วงเวลามากกว่า 16 ปีที่ผ่านมา ยูเอ็นเอสซี ยกระดับการคว่ำบาตรอย่างมั่นคงและเป็นเอกฉันท์ เพื่อตัดเงินทุนโครงการขีปนาวุธนำวิถีและอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลเปียงยาง แต่รัฐบาลวอชิงตันวิพากษ์วิจารณ์จีนและรัสเซียมากขึ้น ซึ่งเรียกร้องให้มีการผ่อนคลายการคว่ำบาตร เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรมในเกาหลีเหนือ

ด้าน นายอาร์ทิยอม ลูคิน ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยสหพันธ์ตะวันออกไกล ในเมืองวลาดิวอสตอค ประเทศรัสเซีย กล่าวว่า มันดูเหมือนว่า สหรัฐต้องการจุดประกายและสร้างเสียงแตกในคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งที่รู้ว่าจะจีนและรัสเซียจะไม่สนับสนุนการแก้ปัญหาอยู่แล้ว

อีกทั้งรัสเซียยังเห็นวิกฤติการณ์ในยูเครนเป็นสงครามตัวแทนกับสหรัฐ และส่งผลกระทบต่อเกาหลีเหนือด้วย “แม้รัฐบาลมอสโกและรัฐบาลวอชิงตันมีความสนใจเหมือนกันในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพวกเขาที่จะร่วมมือกัน” ลูคิน กล่าว

ขณะที่นายเจา ตง นักวิชาการของกองทุนบริจาคคาร์เนกี เพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (ซีอีไอพี) ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า การคัดค้านของจีนและรัสเซีย คือสัญญาณที่บอกถึงการลดลงในความสัมพันธ์กับสหรัฐและพันธมิตร นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งและรัฐบาลมอสโกยังมองว่า การพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ถูกคุกคามจากรัฐบาลวอชิงตัน และไม่สามารถโทษรัฐบาลเปียงยางทั้งหมดได้

“พวกเรามีปัญหาช่องว่างความเข้าใจในกลุ่มประเทศมหาอำนาจ และเกาหลีเหนือกำลังเอาเปรียบและได้รับประโยชน์จากมัน”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES