ครบรอบ 8 ปี การทำรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.65 เป็นการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 หลังจากมีการขัดขวางการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 2 ก.พ.57 จนเป็นผลสำเร็จ โดยกลุ่มผู้ชุม นุม กปปส. (ม็อบนกหวีด) ทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นกลายเป็นโมฆะ และ พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ใช้เป็นข้ออ้างความจำเป็นเพื่อแก้สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมไทย และการปล่อยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารประเทศต่อไปส่อไปทางทุจริต ประพฤติมิชอบจะเกิดความเลวร้าย จึงจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน

“คณาธิปไตย” ล้างความผิดให้ทหาร

ทีมข่าว “Special Report” สนทนากับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาชาติ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทั้งในมุมมองของความเป็นนักการเมืองขั้วประชาธิปไตย และอดีตนายตำรวจที่คร่ำหวอดมากับงานทางด้านการสอบสอนและปราบปราม

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การคืนประชาธิปไตยของ คสช. โดยผ่านรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย แต่ได้ “คณาธิปไตย” แทน! เนื่องจากมีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ใช้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ออกเสียงเลือก พล.อ.ประยุทธ์หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี

การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 นอกจากทำลายประชาธิปไตยแล้ว ยังมีเป้าประสงค์สำคัญ คือการล้มล้างความผิดให้ทหารในเหตุการณ์สลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 99 ศพ กลางเมืองหลวง และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นพันคน ในยุคที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น ผบ.ทบ และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น รอง ผบ.ทบ. ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในเดือน ต.ค.53 แม้ว่าศาลยุติธรรมได้ไต่สวนสาเหตุการตายแล้วว่าผู้เสียชีวิต 18 ศพ (จากทั้งหมด 99 ศพ) เกิดจากกระสุนของฝ่ายทหาร 


“ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 เมื่ออ้างว่าทหารกระทำความผิดตามลำพังไม่มีพลเรือนร่วมกระทำความผิดด้วย จึงต้องนำคดีสู่ศาลทหารเท่านั้น ทำให้คดีสลายการชุมนุมในปี 53 พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการทหาร และผลคดีคืออัยการทหารมีคำสั่งไม่ฟ้อง หรือไปไม่ถึงศาลหทาร ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสิทธิผู้เสียหายจะนำคดีฟ้องต่อศาลเองด้วย ดังนั้นกระบวนการนำคดีสู่อัยการศาลทหาร จึงเป็นการตัดตอนการนำเรื่องสู่กระบวนการพิจารณาคดีในกระบวนการยุติธรรม”

ควรแก้พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารที่กระทบประชาชน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อไปว่า ปัญหาเรื่องความยุติธรรมกรณีตาม พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 ที่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เรียกร้องให้โอนคดีจากศาลทหาร ไปยังศาลยุติธรรมมีมาโดยตลอด อาทิ คดีนายฟัครุดดีน บอตอ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนดารุสลาม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นผู้เสียหายถูกยิงด้วยอาวุธปืน

เหตุเกิดช่วงเช้าตรู่วันที่ 6 ส.ค.49 โดยอดีต ส.ว.ฟัครุดดีน ถูกลอบยิงบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปกินน้ำชาที่ตลาดตันหยงมัส อ.ระแงะ แล้วในที่สุดมีการจับผู้กระทำความผิด 1 คน ซึ่งเป็นพลทหาร คดีต้องขึ้นศาลทหาร แต่ ส.ว.ฟัครุดดีน ในฐานะผู้เสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นพลเรือน จะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมก็ไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารห้ามไว้ การพิจารณาคดีใช้เวลานานมาก สุดท้ายศาลทหารจังหวัดปัตตานีตัดสินยกฟ้อง และคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งผ่านมาแล้ว 15 ปี

ดังนั้นเมื่อประชาชนมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ทั้งคดีของอดีต ส.ว.ฟัครุดดีนตั้งแต่ปี 49 และคดีสลายม็อบคนเสื้อแดงในปี 53 พรรคประชาชาติจึงเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.63 โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม คดีที่ทหารเป็นผู้กระทำผิดซึ่งผู้เสียหายเป็นพลเรือน ให้พิจารณาที่ศาลยุติธรรมเหมือนบุคคลทั่วไป ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากข้าราชการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ หรือข้าราชการหน่วยงานใดๆ จะถูกพิจารณาโดยศาลยุติธรรมอย่างเสมอภาคกันทั้งสิ้น

กรมคุ้มครองสิทธิฯเห็นด้วย-แต่ ครม.ไม่เห็นชอบ!

สำหรับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร ถูกนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 65 โดยมติที่ประชุมเห็นชอบให้นำร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาก่อนรับหลักการ ต่อมา ครม.มีมติเมื่อวันที่ 22 มี.ค.65 ไม่เห็นชอบกับการแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. …” พร้อมกับการส่งร่างคืนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาพร้อมข้อสังเกตต่อไป

ทั้งที่มีหลายหน่วยงานมีความเห็นชอบควรรับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่..) พ.ศ. ตามที่พรรคประชาชาติเสนอแก้ ได้แก่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เห็นว่าสิทธิในการฟ้องคดีด้วยตนเองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามข้อ 14.3 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง จึงเห็นด้วยที่มีการเสนอแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว และสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เห็นว่าสิทธิการเรียกค่าเสียหายอันเกิดจากคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา โดยผู้เสียหายหรืออัยการทหารในฐานะผู้ดำเนินการแทน จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาต่อศาลทหารได้ ทำให้ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลยุติธรรมภายหลัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่อาจไม่สะดวกเท่าที่ควร ต้องเสียเวลาในการดำเนินการ รวมถึงค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิของประชาชนได้ จึงเห็นสมควรมีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร

ผลเลือกตั้งกทม. ตีแสกหน้าลัทธิชาตินิยมการเมืองคนดี

ตลอดเวลา 8 ปีของการรัฐประหาร ได้สร้างลัทธิชาตินิยมการเมืองคนดี แยกเป็นเราเป็นเขา ผลักให้อีกฝ่ายอยู่ตรงกันข้าม รัฐบาลใช้อำนาจนิยมผ่านในรูปของกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ไม่ยกเว้นแม้แต่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยังใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วแต่งตั้งผู้ว่าฯ ที่เป็นคนสนิทของคสช.เข้าไปแทน ให้ว่างเว้นจากการเลือกตั้งไป 8-9 ปี จึงปล่อยให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา


แต่ผลการเลือกตั้งได้พิสูจน์การปกครองตามลัทธิชาตินิยมการเมืองคนดีของ คสช. กับผู้สมัครที่ถูก คสช.ผลักให้เป็นฝั่งตรงกันข้าม หรือฝ่ายประชาธิปไตย และผลการเลือกตั้งปรากฏว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะอย่างถล่มทลาย ดังนั้นวาทกรรมทางการเมืองคนดี จึงเป็นเพียงกลอุบายเท่านั้น เพราะความจริงประชาชนต้องการระบอบการปกครองที่มาจากการยอมรับของประชาชน หรือต้องให้ประชาชนเลือกผู้ที่ขึ้นมาปกครอง ผู้ปกครองไม่ใช่เทวดา (คนดี) แต่ต้องเป็นผู้ที่ประชาชนยอมรับ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการใช้พลังของสติปัญญาของเขาในการตัดสินปัญหาและอนาคต

“ดังนั้นการไม่รับร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารของรัฐบาล จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ เพราะพฤติกรรมลัทธิชาตินิยมการเมืองคนดี ที่ให้ความสำคัญอำนาจและผลประโยชน์อยู่เหนือประชาชนและความยุติธรรม การที่พรรคประชาชาติเห็นว่าทหารเป็นอาชีพที่มีความสำคัญและมีเกียรติ แต่ทหารต้องเป็นพลเมืองของประเทศเหมือนพลเมืองทั่วไป ต้องเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐทุกสาขาอาชีพ

แต่หากไม่แก้ไข ทหารจะกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน เมื่อกระทำความผิดแล้วได้รับการยกเว้น ไม่ต้องพิจารณาที่ศาลพลเรือน ต้องไปพิจารณายังศาลทหาร และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายที่เป็นพลเรือนให้มีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่สิทธิในการฟ้องคดีเองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองตามหลักสากล สามารถเข้าถึงกระบวนยุติธรรมอย่างสะดวกที่เสมอหน้ากัน ถือเป็นมาตรฐานในการคุ้มครองสิทธิของประชาชน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว