@เป็นปรากฏการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงต้องจับตามอง คือความเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประกาศให้วันที่ 3 หลังการประกาศเป็นวัน “อีดิลฟิตตรี้” เป็นวัน “เยาวชนแห่งชาติปัตตานี” ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีการ “ชุมนุมของเยาวชน” เป็นการ “ชิมลาง” เพื่อแสดง “สัญลักษณ์” ที่เป็น “อัตลักษณ์” ของชาวมุสลิมมาลายู แต่ในการชุมนุมของ เยาวชนมุสลิมปีนี้ มีจำนวน นับหมื่นคน และมีการ “สาบานตน” ในการ “ขับเคลื่อนภารกิจ” ของการต่อสู้กับผู้รุกราน และอื่นๆ อีกหลายข้อที่ “หมิ่นเหม่” กับเรื่องของ “ความมั่นคง” ในพื้นที่ของ “แผ่นดินปลายด้ามขวาน” รวมทั้งการเดินทางไป “เคารพศพ” ของ “กองกำลังติดอาวุธ” ที่ถูก “ทหาร” วิสามัญฯ เสียชีวิตในพื้นที่….เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น กลุ่มคนที่มอง “โลกสวย” และ “เอ็นจีโอ” รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง “บางคน” อาจจะเห็นเพียง “กระพี้” คือมองว่าเป็นการแสดงการแต่งกายแบบ “มลายู” เป็นการเชิดชู “อัตลักษณ์” ของคนในพื้นที่ ซึ่งทาง “ราชการ” ควรส่งเสริมด้วยซ้ำ….

@แต่ในมุมของ “หน่วยข่าว” ที่ติดตามงาน “มวลชน” ของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” มาตั้งแต่ปี 2535 จะทราบว่า “บีอาร์เอ็น” ได้ “ปฏิบัติการ” ในการสร้าง “เยาวชนปฏิวัติ” เพื่อการ “ขับเคลื่อน” งาน “การเมือง” ให้ได้ 100,000 คน เพื่อเป็นกองกำลังสำคัญในการลุกขึ้น “ต่อสู้” เพื่อ “เอกราช” อีกครั้งในปี 2570 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ต้อง “ไม่นิ่งนอนใจ” กับ “ปรากฏการณ์” ของ “เยาวชน” ที่มารวมตัวกัน “เรือนหมื่น” และไม่ใช่ที่ “หาดวาสุกรี” อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพียงแห่งเดียว แต่มีการ “กระจาย” การ “ชุมนุม” อีกหลายแห่ง ทั้งที่ฝ่ายความมั่นคงรู้ และไม่รู้ ….เรื่องอย่างนี้ ไม่ใช่ “ปุบปับ” จะเกิดขึ้นได้ เพราะต้องมีการ “บริหารจัดการ” ในการ “จัดตั้ง” ที่ต้องใช้ “เวลา” ในการให้ “ความรู้” และใช้ “งบประมาณ” ซึ่งหน่วยข่าวกรองในพื้นที่ก็น่าจะทราบดีว่า ทั้งหมดผ่านการ “บริหารจัดการ” และการ “จัดตั้ง” โดย กลุ่มภาคประชาสังคมของ “บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีอยู่เกือบ 30 กลุ่ม และที่สำคัญ 2-3 กลุ่มที่เป็น “หัวหอก” และมีความ “เชื่อมโยง” กับ องค์กร “ต่างชาติ” ที่เข้ามา “เคลื่อนไหว” อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2550 และ ขณะนี้ องค์กรดังกล่าว ได้รับการ “โอบอุ้ม” จาก “นายพล” ที่เป็นนายทหารเกษียณที่เข้าไปทำหน้าที่ “ที่ปรึกษา” รับค่าตอบแทนเดือนละ หลายแสนบาท ของ องค์กรต่างชาติจาก “ตะวันตก” เพื่อทำหน้าที่ “หอกข้างแคร่” ในการเป็น “ที่ปรึกษา” ของ “บีอาร์เอ็น” และสนับสนุน “ปีกทางการเมือง” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามว่า รัฐบาล, กระทรวงกลาโหม และ กองทัพ จะ “จัดการ” อย่างไร กับ ปัญหาที่เกิดขึ้น  คนในพื้นที่ขอคำตอบครับ….

@ในขณะที่ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” ของ “รัฐบาลไทย” ก็แถลงข่าวที่จะ “เดินหน้า” เพื่อการ “พูดคุย” ครั้งต่อไปกับ “หิพนี มะเระ” ตัวแทนของ “บีอาร์เอ็น” เพราะเห็น “สัญญาณบวก” ที่ “บีอาร์เอ็น” ปฏิบัติตามสัญญาของการ “หยุดยิง” ในเดือน “รอมฎอน” ที่มีเหตุเพียง 2 ครั้ง และ “บีอาร์เอ็น” ปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือของ “กองกำลังติดอาวุธ” ของ “บีอาร์เอ็น”…. แน่นอน ที่การ “เจรจา” หรือ “พูดคุย” ต้องดำเนินการต่อ แต่ก็ต้องระมัดระวัง และต้อง “รับรู้” ว่า ณ วันนี้ “บีอาร์เอ็น” เล่นบทการ “ตี 2 หน้า” โดยการให้ “คณะพูดคุย” ของ “หิพนี มะเระ” ทำหน้าที่ “พูดคุย” ยื่นข้อเสนอกับ “รัฐบาลไทย” ในขณะที่ “แกนนำ” บีอาร์เอ็น ตัวจริง ก็ “ขับเคลื่อน” ปฏิบัติการ “ทางการเมือง” ทั้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และใน “เวทีโลก” ส่วนการก่อเหตุร้าย “รายวัน” เป็นเพียงเรื่องของการ “หล่อเลี้ยง” สถานการณ์เพื่อให้เห็นว่า ยังมีการ “ต่อสู้” เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการของ “ทหาร” เท่านั้น ถ้า “ทหาร” ไม่มีการ “ปฏิบัติการ” ต่อ “กองกำลังติดอาวุธ” และ “แนวร่วม” ที่ ปฏิบัติการใน 6 ภารกิจ ตามแผนงานของ “บีอาร์เอ็น” ก็ไม่มีการ “ต่อสู้” กับ เจ้าหน้าที่ “ทหาร” อยู่แล้ว เพราะ “เป้าหมาย” ของ “บีอาร์เอ็น” อยู่ที่การสร้าง “มวลชน” สร้าง “นักปฏิวัติ” และที่สำคัญคือกองกำลัง “ทหารเด็ก” ที่ ขณะนี้มี “เด็กกำพร้า” ที่มาจาก “ครอบครัว” ที่คนในครอบครัว เสียชีวิตจากการ “ต่อสู้” กับ เจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ทั้งหมด “ไม่ใช่เรื่องโม้” แต่เป็นเรื่องจริงที่ หน่วยงานในพื้นที่ “ปกปิด” และ “ปฏิเสธ” เพื่อให้ “รัฐบาล” และ “กองทัพ” เห็นว่า สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังจะ “จบลง”….การที่ “ไฟใต้” จะจบลง หรือจะ “ลากยาว” ต่อไปแบบ “ทศนิยมไม่รู้จบ” อย่าดูที่ “เหตุร้ายรายวันลดลง” แต่ให้ดูที่ “งบประมาณ” ถ้าสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นทุกๆ ปี ตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงาน ทำไม “งบประมาณ” ที่ กอ.รมน.ได้รับจึง ไม่ลดลงตาม “ภารกิจ” ที่ “น้อยลง” เพื่อไปเพิ่ม “งบประมาณ” ด้านการพัฒนาที่ต้องเพิ่มขึ้นเพื่อการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาคน เพื่อรองรับความสงบ ที่เกิดขึ้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามของคนในพื้นที่ ซึ่งต้องการคำตอบเหมือนกัน….

@นี่ก็เรื่องที่น่าเป็นห่วง “โลมา” ในทะเลสาบสงขลา ที่เคยมีอยู่ “ชุกชุม” เป็นร้อยๆ ตัวในอดีต วันนี้เหลือเพียงฝูงสุดท้าย 14 ตัว ถ้า หน่วยงานที่รับผิดชอบ ยังไม่คิดอะไร และคิดอะไรไม่เป็น อีกไม่ช้า “ปลาโลมา” ฝูงสุดท้าย ก็จะ “สูญพันธ์ุ” งานนี้ อยู่กับ กระทรวงไหน ใครเป็น เจ้ากระทรวง และในพื้นที่ หน่วยงานไหน รับผิดชอบ ก็ต้องเร่งดำเนินการ ถ้าจำเป็นต้อง “อพยพ” ฝูงโลมา ไปอยู่ที่ “ปลอดภัย” และมี “อาหาร” ที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อการ “อยู่รอด” ให้ “คนไทย” ได้ดูโลมาตัวเป็นๆ “แทน” รูปภาพ ก็ต้องรีบทำ อย่ามัว “โอ้เอ้วิหารราย”…..

@ความเดือดร้อนของประชาชนส่วนหนึ่งใน อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ ผจญกับการ “ท่วมซ้ำซาก” ของน้ำฝน ฝนตกแค่ 2 ชั่วโมง น้ำก็ท่วมแล้ว ทั้งในพื้นที่ ต.สำนักขาม และ เขตเทศบาลเมืองสะเดา และไม่ใช่เพิ่งเป็น แต่เป็นมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นแผนการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็น “รูปธรรม” ทั้งที่ บ้านเมืองนี้มี ส.ส.ที่บอกกับประชาชนว่าเป็น “ผู้แทนราษฎร” และมี นายกเทศบาล ที่ประชาชน เลือกเข้ามา ก็ต้องถามว่า เกชา เบญจคาร นายกเทศบาลตำบลสำนักขาม และ วัชพล ปริสุทธิกุล นายกเทศบาลเมืองสะเดา และ ส.ส.ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ  ผู้แทนเขต 8 พรรคภูมิใจไทย รวมทั้ง สุภาพร กำเนิดผล “น้องน้ำหอม” ส.ส.เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ จะแก้ปัญหานี้อย่างไร อย่าตอบนะว่า ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ เพื่อจะได้หา “คะแนนเสียง” ด้วยการ “แจกถุงยังชีพ” ….

@กลายเป็นปัญหา “ประจำถิ่น” ไปแล้ว คือเรื่อง “ชาวเมียนมา” ที่หลบหนีเข้าเมือง เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ในเมืองชายแดน จ.สงขลา จ.นราธิวาส จับได้ทุกวัน จน “ห้องขัง” กำลังจะไม่พอขัง และยังเป็น “ภาระ” เรื่องการ “เลี้ยงดู” การตรวจ “โควิด” เรื่อง “แรงงานเถื่อน” ข้ามชาติ เป็นเรื่องของ 2 ประเทศ คือ “ไทย” กับ “มาเลเซีย” ไทยนั้นเป็น “ทางผ่าน” ปลายทางคือ “มาเลเซีย” ถ้าทั้ง 2 ประเทศ ไม่แก้ปัญหาร่วมกัน ปัญหาก็ไม่จบ เรื่องจับกุมเป็นหน้าที่ของ “ท้องถิ่น” แต่เรื่อง “พูดคุย” ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องของ “รัฐบาล” โดยเฉพาะ “กระทรวงการต่างประเทศ” และ “กระทรวงกลาโหม” เพราะเป็นเรื่องของความ “มั่นคง” ที่ “ทหาร” มี “กลไก” ระดับ “ภูมิภาค” กับ กองทัพของ “มาเลเซีย” อยู่แล้ว เพราะถ้า “มาเลเซีย” ยัง “อ้าแขนรับ” ทั้ง “เมียนมา” ทั้ง “โรฮีนจา” เพื่อไปใช้ “แรงงาน” ในรูปแบบของ “แรงงานเถื่อน” ประเทศไทย ก็ยากที่จะแก้ไข วิธีการเดียวที่อาจจะต้องใช้เพื่อ “แก้เผ็ด” นโยบาย “ปากว่าตาขยิบ” ของ มาเลเซีย เกี่ยวกับเรื่อง “แรงงานเถื่อน” คือ ไทยไม่จับกุม แต่ให้ “ผลักดัน” แรงงานเถื่อนเหล่านี้ให้เดินทาง “ข้ามแดน” ไป มาเลเซีย ตามที่ต้องการ ดีหรือไม่จะได้ “แฮปปี้” ทั้ง “มาเลเซีย” ที่ต้องการแรงงานเถื่อน และจะได้ “แฮปปี้” ทั้ง ขบวนการค้าแรงงานเถื่อน และ เจ้าหน้าที่จะได้ “รับส่วย” อย่างไม่ต้องกลัวถูก “เปิดโปง” อีกต่อไป เอามั้ย เอามั้ย….

@ “หนักแล้วสิทธิเห้อ” เมื่อเกษตรกร เจ้าของสวนยาง สวนทุเรียน ผลไม้ ในภาคใต้ ที่เคย “ซื้อปุ๋ย” เป็น “กระสอบ” วันนี้ต้องซื้อที่ละ 10-20 กิโล เพราะ ปุ๋ยมีราคาแพงเกินกว่าเงินใน “กระเป๋า” ที่มีอยู่ ข่าวว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็น “เสนาบดี” เพิ่งจะคิดถึง “โครงการปุ๋ยแห่งชาติ” ที่ คิดกันมาหลายรัฐบาลเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ “คิด” อย่างเดียวไม่เคยที่จะ “ทำ” ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศ “กสิกรรม” ขายพืชผลให้กับ “ชาวโลก” แต่ เชื่อว่า ถ้าทำเมื่อไหร่ ก็จะเจอ “แรงต้าน” จาก “เอ็นจีโอ” เพราะการตั้งโรงงานปุ๋ยต้องทำ “เหมืองโพแทสเซียม” ซึ่งมีอยู่ในประเทศไทย เพราะทั้ง หน่วยงานรัฐ และ เอ็นจีโอ ต่างมีจุดประสงค์เหมือนกันคือ “เอื้อ” นายทุนจากต่างชาติ นี่ถ้าไม่มี “สงคราม” รัสเซีย กับ ยูเครน เรื่อง “ปุ๋ยแห่งชาติ” คงไม่มี “ในหัว” ของ “ผู้นำประเทศ” และ “เสนาบดี” นี่แหละที่เขาเรียกว่า “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” เอ้า เกษตรกรทั้งประเทศจะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้…..และแน่นอน มีพวกฉวยโอกาส นำเอา “ปุ๋ยปลอม” มาขายในราคาถูก เป็นการ “หลอกลวง” และเป็นการ “ซ้ำเติมเกษตรกร” ให้ “เจ็บปวด” ยิ่งขึ้น มีเกษตรในภาคใต้ จำนวนมาก ที่ตกเป็น “เหยื่อ” ก็ขอเตือนกันตรงนี้ว่า “ของถูกคือของไม่ดี” และ “ของฟรีก็ไม่มีในโลก” อย่าได้ “หลงกล” ของ “มิจฉาชีพ” กลุ่มนี้

@ส่วนผลกระทบจาก “น้ำมันปาล์ม” ที่ ปรับราคา “รายวัน” สำรวจตลาดในหลายจังหวัดของภาคใต้ “ปาท่องโก๋” อาหารเช้าของคนหลายคน “ตัวเล็กลง” และขายแพงขึ้น ส่วนอาหารเช้าของเด็ก “วัยเรียน” ข้าวเหนียวไก่ทอด และ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง นอกจาก “แพงขึ้น” ยังมี “สีเหลือง” จนถึง “คล้ำ” เพราะการที่ “คนขาย” ใช้วิธีการ “ทอดซ้ำ” เพื่อประหยัด “น้ำมัน” เอ้า พาณิชย์จังหวัด และ สาธารณสุขจังหวัด ยังมีอยู่หรือเปล่า และ อยู่หน่ายๆๆ….

@ส่วนที่ “จนทั้งแผ่นดิน” มาดูตรงนี้ ก่อนเปิดเทอม หรือเปิดภาคเรียนตามปกติในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้ โรงรับจำนำทุกแห่ง “แน่นขนัด” ที่ จ.สงขลา มีคนถอดกระทั่ง “พัดลมเพดาน” มา “จำนำ” ดังนั้นจึงไม่พักที่จะกล่าวถึงสิ่งของอื่นๆ เพราะ “จำนำ” หมดแล้ว รัฐมนตรีศึกษาธิการ ตรีนุช เทียนทอง จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของ “ผู้ปกครอง” ได้ตรงไหนก็รีบ “จัดการ” และฝากถึง ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ ทุกจังหวัด ทุก สภ. วันนี้ เกษตรกร ทุกสาขาอาชีพ “เดือดร้อน” เพราะ ผลผลิตทางการเกษตรทุกอย่าง กล้วย, อ้อย, น้อยหน่า, พุทรา, มังคุด, มะพร้าว และทุเรียน ต่างถูก “มิจฉาชีพ” ลักขโมย เป็นว่าเล่น ไม่ใช่เพื่อซื้อ “ยาเสพติด” อย่างเมื่อก่อน แต่เป็นการ “ลักขโมย” เพื่อนำไป “ซื้อข้าวกิน” ตำรวจอยู่ไหน ดูแลด้วยครับ…..

@ “ไม่เหนียวอย่ามาเที่ยวพัทลุง” กลายเป็น “วลีฮิต” ที่ “คนร้าย” ใน จ.พัทลุง ที่ก่อเหตุด้วยอาวุธปืน ฝากเอาไว้ให้ “ตำรวจ” ปวดหัวเล่น กับ คดีอาชญากรรม ที่ยัง “บานเป็นดอกเห็ด” และน่าจะยังเป็นจังหวัดเดียว ที่มีเหตุ “อาชญากรรม” มากเป็นพิเศษ ถ้า พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง “เอาไม่อยู่” โยกย้ายใหญ่เดือนกันยายน ที่ใกล้เข้ามา ฝากให้ “สันติสุข 1”  พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ปรับเปลี่ยนกันทั้งจังหวัด เห็นท่าจะดี….

@ ก็เพราะ น้ำมัน ในประเทศ “แพงสุดกู่” วันนี้ “น้ำมันเถื่อน” ในภาคใต้จึง “คืนชีพ” อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับลูกค้า เจ้าของธุรกิจขนส่ง และโรงงานอุตสาหกรรม ล่าสุด เจ้าหน้าที่ “สรรพสามิต” จับกุมได้เป็น “รถพ่วง” ได้ค่าปรับถึง 400,000 กว่าบาท ข่าวว่าเป็นของ “นายทุน” น้ำมันเถื่อน แถวๆ อ.จุฬาภรณ์ ที่นำน้ำมันเรือจาก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มาลงขายใน “ปั๊มมัน” และส่งทั่วภาคใต้ ส่วนอีกราย “ศรชล” จ.ปัตตานี จับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนได้ ในขณะมี่นำเรือมา “ขึ้นคาน” สำหรับ “รายใหญ่” ของ “เสี่ยเอก” ที่อ้างว่า “เคลียร์” กับ ตร. ปนม.ภาคใต้แล้ว กำลัง “ขยับรถ ขยับเรือ” อยู่ที่อำเภอชายทะเล จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ก็เตรียมพร้อมเอาไว้….สำหรับข้อเรียกร้องของประชาชนที่ใช้ “น้ำมันดีเซล” คือการให้ “ถอดไบโอดีเซล” ออกจากน้ำมันดีเซลนั้น วันนี้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงานยัง “รีๆ รอๆ” เป็นเพราะ เกรงใจ “กลุ่มทุน” เจ้าของโรงงานผู้ผลิต “ไบโอดีเซล” หรือเป็นเพราะอะไรไม่รู้ แต่การทำเอาน้ำมัน “ไบโอดีเซล” ที่ราคาลิตรละ 62 บาท มาผสมกับน้ำมันดีเซล ที่ต้นทุนลิตรละ 40 บาท เป็นการเอา “ของแพง” มาผสมเพื่อทำให้น้ำมันดีเซล “แพงยิ่งขึ้น” เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำในสภาวะที่ประเทศใกล้จะ “ล้มละลาย” และการอ้างว่า ถ้าไม่เอา “ไบโอ” มาผสมกับ “ดีเซล” จะเป็นปัญหาในการ “หล่อลื่น” ของ “เครื่องยนต์” ก็น่าจะเป็น “นิทานหลอกเด็ก” เพราะในอดีต “ไบโอ” ไม่มี ก็ยังไม่เห็นเครื่องยนต์ของใครมีปัญหา อย่าลืมว่า “รถยนต์” นะมีตั้งแต่ร้อยๆ ปี แต่ “ไบโอ” เพิ่งมีเมื่อ 8 ปี 10 ปีนี้เอง อะไรจะหลอกกันป่านนั้น….

@ที่ “คาใจ” คนทั้ง “แผ่นดิน” วันนี้ น้ำมันดีเซล ที่ประเทศมาเลเซีย ลิตรละ 2.15 เหรียญริงกิต เป็นเงินไทยก็ตก 18 บาท/ลิตร เบนซิน 95 ราคาลิตรละ 2.05 เหรีญริงกิต ราคาถูกกว่า น้ำมันดีเซล ด้วยซ้ำ อย่าบอกนะว่า เขาไม่มีภาษี เพราะถ้าเอาภาษีที่ กรรมสรรพสามิต และภาษีตัวอื่นๆ ออกจากน้ำมันของไทยทั้งหมด ราคาน้ำมันในประเทศไทย ก็อยู่ที่ลิตรละ 30 บาท อยู่ดี “ส่วนต่าง” ของ ราคาน้ำมัน ระหว่าง ไทย-มาเลเซีย มันหายไปในกระเป๋าใคร และอย่าบอกอีกนะว่า มาเลเซีย ขุดน้ำมันได้เอง ก็ประเทศไทย เราก็ขุดได้เอง ทั้ง “บนบก” และใน “ทะเล” ตรงนี้ต่างหาก ที่ รัฐบาลไทย ต้องแก้ไข นั้นคือเรื่องของ “โครงสร้าง” น้ำมันของประเทศ….

@เรื่องของการ “บุกรุกขุดดิน” ในโบราณสถานที่ “เขาแดง” และ “เขาน้อย” ที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. (สส 5) เป็นผู้รับผิดชอบ มีคนถามไถ่ว่า มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เพราะแม้ว่าจะได้ทำการ “จับกุม” ผู้ทำความผิด ครบทุกคนแล้ว แต่ “คนสงขลา” ยังไม่ไว้วางใจ จึงต้องการให้มีการแถลงถึงความคืบหน้า ให้รับรู้กันบ้าง เพราะกรงว่า เดี๋ยวจะเหมือนกับเรื่องการแก้ปัญหา “หวยเกินราคา” ที่สุดท้าย “แรมโบ้” กลายเป็น “แรมบ้า” และ เรื่องการปราบหวยเกินราคาก็จบลงแบบ “ครี่งบกครึ่งน้ำ”….

@และบรรทัดนี้ ขอแสดงความยินดีกับ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ได้รับตำแหน่ง “นายกสมาคมชาวใต้ในพระราชูปถัมภ์” แทน พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีต รักษาการ ผบ.ตร. หวังว่า สมาคมชาวใต้ คงจะรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น….

@ถือเป็นความสำเร็จของ ศอ.บต. และ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ในการจัด “มหกรรม อะเมชิ่ง จังเกิ้ล เทรล 2022” ที่ อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 6-8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นอกจากจะมี “นักวิ่ง” และ ผู้เกี่ยวข้องจาก 13 ประเทศ เข้ามาร่วมงาน และ รู้จัก “เบตง” รู้จักป่า “ฮาลาบาลา” ที่เป็น “แอมะซอน” ของประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้ให้ “คนเบตง” ถึง 100 กว่าล้านบาทในเวลาเพียง 2-3 วัน เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่มีการระบาดของ “โควิด-19” ที่ทำให้ “เมืองเบตง” คืนชีพ…. แต่ก็มีงานหนักของ ศอ.บต. รออยู่ข้างหน้าอีกไม่กี่เดือน ทุเรียน พืชเศรษฐกิจของเกษตรกร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะออกสู่ท้องตลาด ซึ่งปีนี้ การ “ส่งออก” ทุเรียนไปประเทศจีน ก็ยังมีปัญหาที่ถูกจีน “เปิดด่าน” แบบมีนัยทางการเมือง “แบบลักปิดลักเปิด” อยู่ตลอดเวลา แต่เชื่อว่า พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ที่ “เข้าถึงข่าวสาร” คงเตรียมรับมือไว้แล้ว….

@เรื่องของ “การเมือง” ไพร พัฒโน อดีต ส.ส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ อดีต “นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่” จ.สงขลา หลายสมัย รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศชัดเจนว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ จะลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่เขต 2 สงขลา การประกาศตัวแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งที่ดี เพราะทันทีมีการ “แสดงตน” ก็ได้รับการแสดงความคิดเห็นมากมายจาก “คนหาดใหญ่” เจ้าตัวจะได้ “รับรู้” และนำไป “ปรับปรุง” ในการลงสนามเลือกตั้งในครั้งหน้า และ “เจ้าของตำแหน่ง” ส.ส.เขต 2 สงขลา ศราสตรา ศรีปาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คง “หนาวๆ ร้อนๆ” ที่ต้องขึ้นเวทีสู้กับ “มวยรุ่นใหญ่” อย่าง “ไพร พัฒโน” แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้าครับ 

———————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

ต้อนรับ…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ เซิง-ยวิ่น ลี ผอ.สนง.เศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง ที่นำคณะเข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเศรษฐกิจการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ.ห้องรับรอง ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา 

แกนนำสตรี…  นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุมสัมมนา แกนนำ ปชป. สงขลา กลุ่มสตรี โดยมี นิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สงขลา ณ โรงแรมต้นอ้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

พืชกระท่อม…  ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบนโยบายขับเคลื่อนพืชกระท่อมไทยให้เป็นพืชเศรษฐกิจและการพัฒนาโรงงานต้นแบบในการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากพืชสมุนไพรเพื่อใช้ทางการแพทย์และอาหารที่ได้มาตรฐาน GMP โดยมีเกษตรกรที่สนใจปลูกพืชกระท่อมใน 14 จังหวัดภาคใต้กว่า 500 คนเข้าร่วม 

ช่วยเหลือทันที…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ และเงินเยียวยาผู้เดือดร้อน โดยมี วิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมด้วย 

ตรวจเยี่ยม…    พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผอ.ศปพร ตรวจเยี่ยมการดำเนินการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ใน อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุและสมาชิกฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 

กำลังใจ…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย สกุล เล็งลัคกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา เยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ในย่านเศรษฐกิจ ที่มีการค้าขายอย่างคึกคักในการจัดกิจกรรม อะเมซิ่ง จังเกิ้ล เทรล 2022 ที่ อ.เบตง จ.ยะลา 

บทบาทองค์กรอิสระ…    กล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยคณะประชุมกับตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชนภาคใต้ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ ให้การต้อนรับ 

ตำบลมั่นคง…   ศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. และ นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ผอ.กองส่งเสริมฯ ลงพื้นที่ ต.โกตาบารู ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อแระชุมร่วมกับสภาสันติสุขตำบล ติดตามโครงการ ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 

ต้อนรับ…  ต่วนอับดุลเลาะ ดาโอะมารียอ อดีต ส.ว.ยะลา ให้การต้อนรับ คณะกรรมาธิการอิสระตามรัฐธรรมนูญที่บ้านพัก อ.รามัน จ.ยะลา โดยมี วิชาพร ชินประภัทร ผอ.วิทยาลัยชุมชน และ กิตติ กิตติโชควัฒนา ประธานสภาวิทยาลัยชุมชนยะลา ร่วมให้การต้อนรับ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 

ช่วยเหลือเกษตรกร…   อรสุรางค์ อินทสโร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกรจังหวัดสงขลา ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหาด้านหนี้สินกับสหกรณ์โดยการไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่ถูกฟ้องร้องให้กลับมาเป็นของเกษตรกรเหมือนเดิมเพื่อให้เกษตรกรได้ทำกินต่อไป ณ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านโคกม่วง จำกัด อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา 

ช่วยกาชาด…   นิธิภัสส์ ดุษณี กรรมการและผู้บริหาร “หจก.ดุษณีเอ็นจิเนียริ่ง”  #AISFibre ยะลา สงขลา สตูล หาดใหญ่ และ “ร้านชิดลมยะลา” มอบรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เพื่อใช้ในการจับรางวัล สลากนาวากาชาดประจำปี ในงานสมโภชหลักเมืองและงานกาชาดจังหวัดยะลา โดยมี ธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา เป็นผู้รับมอบ 

มอบเสื้อและขอบคุณ…   นิอับดุลอายิ วาจิ ผู้จัดการทีมสโมสร KP BANNANGSATA FC และทีมงาน ลงพื้นที่จังหวัดยะลา เข้ามอบเสื้อที่ระลึก เพื่อแสดงความขอบคุณ กับ อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยะลา เขต 1 และประธานสโมสรฟุตบอลยาลอ ซิตี้ ในนาม KEADILAN ที่ร่วมสนับสนุนสโมสรฯ ในการเข้าร่วมเเข่งขัน TA THAILAND AMATEUR LEAGUE อีกด้วย 

เปิดร้านใหม่…  เจริญกิจ มีศิริ ผู้สื่อข่าว เดลินิวส์ จ.สงขลา มอบของขวัญ แสดงความยินดีกับ ธนัชทัศน์ รัตนดิต (ติก ไวนิล) ในโอกาสเปิดที่ทำการร้านใหม่ เทศบาลคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา “นึกถึงไวนิลนึกถึง ร้านสงขลา ดีซายน์” คลองแห หาดใหญ่ จ.สงขลา 

เพื่อเด็กกำพร้า…   อาเซ็ง อาแด  อีหม่ามมัสยิดรายอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยคณะกรรมการมัสยิดฯ ได้นำเงินบริจาคที่ได้รับจากประชาชน นำมาแจกให้กับเด็กกำพร้า ที่บิดาเสียชีวิตเกี่ยวกับสถานการณ์ใต้ และอื่นๆ คนละ 5 พันบาท จำนวน 42 คน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเด็กเหล่านั้น ซึ่งมัสยิดอีกกว่า 700 มัสยิด ที่ ปัตตานี ได้ทำกิจกรรมนี้เช่นกัน โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการเลย 

ตำแหน่งใหม่…   ธีมดี ชูช่วย ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) เดินทางไปรับตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร ที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยมี ณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตปลัดจังหวัดสงขลา และ โส เหมกุล อดีต ผอ.ปภ.เขต 12 สงขลา และ สุนทร น้อยบุญมา นายกสมาคมมาเลเซีย-ไทย ไรเดอร์คลับ เดินทางไปร่วมส่ง 

รับตำแหน่ง…   อรัญ คงนวลใย เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสลักป่าเก่ามูลนิธิ ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ร่วมบันทึกภาพกับครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครองนักเรียน หลังการแนะนำตัวผู้อำนวยการคนใหม่ พร้อมร่วมประชุมผู้ปกครองนักเรียน เพื่อชี้แจงการเรียนการสอน และเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนเต็มรูปแบบในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565

ส่งเสริมวัฒนธรรม…   พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมกิจกรรม ส่งเสริมวัฒนธรรมมาลายู และมอบรางวัลประกวดภาพถ่ายชุดมาลายูในวันฮารีรายอ “วันนอร์” ณ หอประชุมมูลนิธิมะทา อ.เมือง จ.ยะลา 

แขกบ้านแขกเมือง…  DYTM.TUANKU SYED FAIZUDDIN PUTRA IBNI TUANKU SYED SIRAJUDDIN JAMALULLAIL. องค์มกุฎราชกุมาร รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย เสด็จพระราชดำเนินมายังด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ในการพระราชทานของที่ระลึกเนื่องในโอกาสตรุษฮารีรายาอีฎิลฟิตรี 1422 แก่ผู้แทนส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรศาสนา และประชาชนในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ อดีต ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และครอบครัวพร้อมข้าราชการในพื้นที่ เฝ้ารับเสด็จ ณ ด่านพรมแดนวังประจัน จ.สตูล