“เซ็กซ์” เรื่องส่วนตัวกลั้วความตลกร้ายและความเสื่อมในไทย

เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ..

อันนี้ไม่ต้องพูดหลายๆ คนก็รู้ นักเขียนใหญ่ในอดีตเขายังบอกว่า ชีวิตคนเราไม่พ้นกินขี้ปี้นอนหรอก ซึ่งเรื่องเซ็กซ์หรือเรื่องปี้นี่มันเป็นเรื่องในที่รโหฐานของกี่คนก็แล้วแต่จะตกลงกันเอง แต่มันก็คือธรรมชาติวิสัยธรรมดาๆ ของคนที่ยังมีความอยาก “กามรส” คือรสชาติหนึ่งที่คนเราต่างก็อยากเสพ ..ขณะที่สังคมไทยเราเอามายาคติ “นี่คือเมืองพุทธ” มาตีกรอบไว้ และ “ทำให้มันเป็นเรื่องลี้ลับน่าอายเกินความจำเป็น” เรื่องเซ็กซ์จึงเป็นเรื่องที่ถูกเอามาใช้ประเมินจริยธรรมในระดับหนึ่ง เป็นเรื่องที่เร้าใจให้ลอบลองอะไรที่มันก้าวข้ามขอบเขตศีลธรรมเพื่อความตื่นเต้น

ในช่วงนี้เมืองไทยเรามีข่าวฉาวๆ เกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งบางเรื่องก็น่าขำ ว่า “จะไปเอาอะไรกับมันมาก” อย่างกรณีนาย เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้าๆ ออกๆ ตะรางอยู่ไม่รู้แล้ว ล่าสุดก็โดนแจ้งความส่งเข้าตะรางอีกตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ข้อหานำเนื้อหาลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการที่นายเอกชัยไปเล่า ประสบการณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นในคุก แล้วก็มีคำสัปดี้สีปดนแบบที่เขาใช้กันในนั้นจริงๆ นั่นแหละ (อยู่ในคุกใครจะมานั่งพูดแบบผู้ดีกัน) มีการบอกเล่าถึง พฤติกรรมและกิจกรรมทางเพศ

ตะรางเลยฮ่ะ… คืออ่านแล้วมันทนไม่ได้นัก ไม่รู้ไปทำราชทัณฑ์เสียหน้าเอาหรือเปล่า ว่ามี การแอบมีเซ็กซ์แบบรักร่วมเพศในเรือนจำ ซึ่งเอาจริงมันก็รู้กันทั้งเมืองนั่นแหละว่ามี ได้ข่าวว่ามีบริการแจกถุงยางกันด้วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี หรือไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนหรือเปล่าที่จะไปเลียนแบบ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมนายเอกชัยโดนข้อหาแบบตายน้ำตื้นอย่างนี้...ก็ถ้าจะหาข้อเขียนโป๊ๆ ในประเทศไทยเนี่ย ขอบอกว่า เกลื่อนเมือง

เอาง่ายๆ ไปดูตามแผงหนังสือแล้วกัน เอาร้านใหญ่ๆ มีสาขานะ …จะมี โซนนิยายวาย กับ นิยาย NC-17 (no children under 17) เขียนหลังปกไว้นิดนึงว่า “เนื้อหาไม่เหมาะกับผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี” ..แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจ เห็นเด็กมัธยมไปเดินซื้อกันอยู่ปกติ ส่วนใหญ่เด็กผู้หญิงจะอ่านนิยายวาย เคยเดินดูๆ แล้วได้ยินเด็กวัยซนเลือกซื้อคุยกับเพื่อน “แก เล่มนี้ปกมันแรง ไม่กล้าซื้อเดี๋ยวแม่มองแรงอีก” ..แล้วเล่มที่ขายดีนี่มักจะมีการบรรยายฉาก intercourse (ร่วมรัก) หลายฉากเสียด้วยสิ เห็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. บางคนอยากส่งเสริมกรุงเทพฯ เป็นเมืองการอ่าน ..ลองเอานิยายที่ขายเกลื่อนเมืองพวกนี้ไปอ่านไหม?

หรือไม่ก็ในเว็บไซต์เขียนนิยายอะไรต่างๆ ก็มีข้อเขียนสยิวกิ้วเต็มไปหมด พวกนี้ไม่โดนข้อหานำเข้าข้อมูลลามกอนาจารรึ? หรือมี ยันต์กันผีติดไว้ว่า NC-17 กับ 18+ ก็โอเคแล้ว ถือว่า “เตือนแล้วนะ” จึงไม่ผิดแต่อย่างใด ..ยันต์กันผีอีกอย่างสำหรับนิยายโป๊ในอินเทอร์เน็ตคือ ตอนไหนโป๊ก็ให้ “ติดเหรียญ” คือต้องจ่ายค่าเข้าไปอ่าน

แต่ก็นั่นแหละ มันก็ห้ามกันยาก ที่จะสั่งไม่ให้คนเสพของเหล่านี้เพราะมันคือความบันเทิงของชีวิตรูปแบบหนึ่ง ไปปิดกั้นก็ลิดรอนสิทธิอีก และส่วนตัวไม่สนับสนุนให้มีการปิดกั้นด้วย เพียงแต่การเรียนรู้เรื่องเพศนี่ ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญในการสอนบุตรหลานในด้านต่างๆ ให้มากขึ้น ไม่ใช่ โยนภาระให้โรงเรียนหรือรัฐ ยิ่งถ้าโยนภาระให้รัฐผลจะออกมาอย่างเดียวคือ “ปิดกั้นไปเถอะ ง่ายที่สุดแล้ว ดีกว่ามานั่งทำอะไรระยะยาว” ..สิ่งที่ผู้ปกครองควรสอนก็คือการจะอ่านอะไรพวกนี้แล้ว “อยากทำตาม” ต้องรับผิดชอบตัวเองได้ รู้ผลที่ตามมา และเป็นความยินยอมพร้อมใจ (consent)

การเอาเรื่องเซ็กซ์ไปผูกกับจริยธรรม บางทีก็กลายเป็น “ดัดจริต” ที่ไปประเมินหรือควบคุมคนอื่น เห็นข่าวๆ นึงแล้วตลกดีคือ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า มีคลิปกลุ่มชายคล้ายตำรวจจัดงานปาร์ตี้ และเต้นประกบโคโยตี้ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม (??? ไม่รู้จะวิจารณ์กันทำไม ก็เห็นเป็นแค่กลุ่มชายหัวเกรียนสามด้าน ไม่ได้ใส่เครื่องแบบนายร้อยห้อยกระบี่เสียหน่อย) บช.น.พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนนประเสริฐมนูกิจ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวลา 17.30-23.00 น. เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของตำรวจสังกัด บก.น.2 ที่สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตร

แม้การกินเลี้ยงดังกล่าวจะเป็นห้วงเวลาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ และสามารถกระทำได้ก็ตามนั้น แต่การกระทำบางอย่างอาจจะเกิดความไม่เหมาะสม กระทบกับภาพลักษณ์ตำรวจ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.สั่งการ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้รายงานผลภายใน 7 วัน หากพบว่ามีการกระทำสิ่งที่เป็นความผิดตามกฎหมาย หรือระเบียบใดก็ตามให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด

คือมันควรจะจบตั้งแต่คำว่า “ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ และสามารถกระทำได้” เมื่อเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เป็นธรรมชาติวิสัยของเขาที่จะสนุกสนานกัน แล้วหน่วยงานต้นสังกัดทำไมต้องละเมิดสิทธิ? ยิ่งถ้ามันเป็นความเต็มใจของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ มันก็ควรจะไม่ไปยุ่งกับเขาไหม?  คือแนวคิดของกลุ่ม “อาชีพในเครื่องแบบ” บางทีก็หน้าบางเสียจนกลัวโดนอะไรนิดเดียวก็จะแหก .. ต้องรักษาภาพแบบ “คนดี” คืออยู่ในศีลธรรม ..โลกปัจจุบันเขาแยกกันได้ เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน การรักษาภาพลักษณ์ตำรวจ ไปทำคดีที่มันค้านสายตาประชาชนให้คนยอมรับดีกว่าไหม? คนเรามันก็ต้องมีเวลา มีชีวิตส่วนตัว ก็ให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาของความหน้าบางแล้วกันว่า “ทีหลังอย่าถ่ายคลิป”

เรื่องเซ็กซ์ที่เสื่อมจริงๆ เสื่อมแบบจะอ้วก..ที่เกิดขึ้นคือ ทาง กองทัพเรือ ออกมาแถลงยอมรับเรื่อง การฝึกทหารใหม่ในค่ายแห่งหนึ่ง ที่มีการ “ละลายพฤติกรรม” โดยการให้ ทหารใหม่กินน้ำอสุจิ!! ซึ่งเป็นคำสั่งของครูฝึกระดับจ่านายหนึ่ง ที่ไม่รู้เป็นบ้าหรือมีรสนิยมทางเพศแนวนี้ ..แต่เมื่อมีอำนาจก็ใช้อำนาจกดคนอื่นแบบทำเขาเหมือนไม่ใช่คน..นี่คือการแสดงออกถึงการไม่เคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชนและคนเท่าเทียมกัน มันก็คงมาจาก ระบบเคารพอาวุโสหรือ SOTUS บ้าๆ บอๆ ที่เด็กแก่กว่าปีสองปีมาทำใหญ่โตใส่เด็กใหม่ในมหาวิทยาลัย ..มหาวิทยาลัยก็เถอะ บางแห่งก็รับน้องสัปดนหรือถึงขั้นทำร้ายอยู่

กองทัพเรือนี่ไม่แผ่วจริงๆ สงสัยระดับผู้บังคับบัญชาไม่ต้องโกนผมธำรงวินัยแล้ว ถอนทิ้งทั้งรากทั้งโคนไปเลย เห็นคลิปจากนักข่าวดังแล้ว รู้สึกแบบว่า สโลแกน “เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด” มันสยองขวัญอย่างแรง ถูกละเมิดความเป็นคนก็เรื่องนึง แถมยังมีโอกาสได้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาอีก ชายไทยสถิติติดหนองใน ซิฟิลิส เอดส์ เยอะอยู่นะ..แล้วไอ้ที่ให้กินน้ำอสุจินี่ ถามว่า “น้ำใคร?” ถ้าไปกินของชาวบ้านมั่วซั่วโอกาสติดโรคสูงมาก ถ้าพลทหารเหล่านี้ติดโรคจากความวิปริตของครูฝึก กองทัพรับผิดชอบแค่ไหน?

คือ ทหารอย่าทำตัวเป็นแดนสนธยา ที่มีอะไรขอเคลียร์กันเองในองค์กร เพราะหน้าบางต้องรักษาเกียรติ บางเรื่องออกมาในชั้นศาลปกติก็ได้ เรื่องนี้ควรต้องมีคนฟ้องถูกละเมิด และคนที่ถูกละเมิดทั้งหมดจะต้องได้รับสิทธิในการตรวจเลือดเพื่อดูว่าติดโรคอะไรหรือไม่ ถ้าติดโรคที่มีน้ำอสุจิเป็นต้นเหตุได้ ให้ฟ้องแพ่งกองทัพบ้าง อย่ากลัวกับอำนาจนิยม กล้องมือถือ กล้องวงจรปิดเดี๋ยวนี้หูตาเป็นสับปะรด เอามาใช้เป็นหลักฐานได้ถ้าจำเป็น (หรือบางทีคนโง่ก็ปล่อยคลิปมาเองกะเอาสนุก เอาเกรียน แล้วทุกข์นั้นก็ถึงตัว) การล่วงละเมิดทางเพศในค่ายทหารของไทยถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆ แล้วแบบนี้จะไม่เห็นใจคนที่เขาเสียใจตอนจับได้ใบแดงได้อย่างไร ก็เขาเข้าไปมีโอกาสถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

นี่ยังไม่พูดถึง เรื่องเซ็กซ์ในวงการสงฆ์อีก ตอนนี้ก็กำลังคึกคักกันเรื่อง “แครอทตัวร้ายกับยัย”..ยัยอะไรสักอย่างไปเติมกันเอง ได้ตามอัธยาศัยแบบหนังเกาหลี ก่อนหน้านี้ก็มีพระแถวปากน้ำแอบเอาสีกาเข้ากุฏิ พอถูกบุกก็เอาที่คาดผมมาคาดหัวอ้างแก้ปวดหัว กลายเป็น meme ให้คนเอาไปตัดต่อเล่นสนุกสนาน ..เรื่องพระนี่ถ้าจะพูดก็ต้องพูดกันยาว เลยละไว้ก่อน

แล้วสรุปข้อเขียนนี้จะบอกอะไรดี? ก็ถือว่าเล่าเรื่องหน่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศในบ้านเราแล้วกัน

สุดท้ายนี้ ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีกิจกรรมสนุกๆ มาฝากคือ PolitiMate  ซึ่งเป็น Voting Advice Application หรือแอพพลิเคชั่นรูปแบบเกมสนุกๆ ให้ผู้เล่นเลือกนโยบายที่เห็นว่าสำคัญ จากนั้นจะนำไปประมวลผลและจับคู่ว่าผู้เล่นมีแนวความคิดเรื่องนโยบายคล้ายคลึงกับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนใด สามารถเข้าไปเล่นได้แล้วที่ politimate.vote62.com

………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”