เมื่อวันที่ 28 เม.ย. เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จจากแบรนด์ Smooth-E และDentiste’ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนบ่มเพาะธุรกิจ BIS (The Business Incubation School) โรงเรียนที่สร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 2,000 คน ในระยะเวลา 7 ปี ในวันนี้ ดร.แสงสุข เดินหน้าก้าวไปอีกขั้น กับแผนการสร้างนักธุรกิจระดับปริญญาตรีแห่งแรกในประเทศไทย โดยนั่งแท่นอธิการบดีสถาบันวิทยาการประกอบการแห่งอโยธยาหรือ IESA (Institute of Entrepreneurial Science Ayothaya) เปิดตัว “หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการเพื่อผู้ประกอบการยุคดิจิทัล”

โดย ดร.แสงสุข เผยว่าความพิเศษของหลักสูตรบริหารธุรกิจนี้ คือ นวัตกรรมการศึกษา (Education Innovation) ที่มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนา “ผู้ประกอบการ (Entrepreneur)” ตามเทรนด์อาชีพในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองผู้เรียนในยุคดิจิทัล เพื่อเพิ่มพูนทั้งทักษะและประสบการณ์ สำหรับก้าวเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตทั้งตลาดภายในประเทศและในเวทีระดับโลก

ซึ่งผู้เรียนที่เข้ามา จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากคณาจารย์ที่หลากหลาย อาทิ ดร. บุญเกียรติ โชควัฒนา(ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนลและบริษัทในเครือสหพัฒน์ ฯ), อ.ทักษะ บุษยโภคะ (โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป), อ.วรวุฒิ อุ่นใจ(Office Mate) และท่านอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ อาจารย์ประจำหลักสูตร, นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ, และนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ ผ่านพีระมิดแห่งการเรียนรู้ ทฤษฎี 20% และปฏิบัติ 80% เพื่อสร้างเสริมทักษะใหม่และพัฒนาทักษะที่มีอยู่ 

“เราให้ความสำคัญกับการนำไปใช้ได้จริง สามารถใช้ได้ในทันที ซึ่งผู้เรียนจะได้สร้างธุรกิจของตนเอง มีผลกำไรและขาดทุนจริงตั้งแต่ยังอยู่ในสถาบัน โดยการันตีรายได้จากการทำธุรกิจที่สร้างกำไรถึง 2 เท่าของค่าเล่าเรียนที่จ่ายไปพร้อมเพิ่มพูนองค์ความรู้ภาคทฤษฎีบริหารธุรกิจ ภายใต้การดูแลของที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ  เพราะที่นี่คือสถาบันการศึกษายุคใหม่ ที่ต้องการสอนให้ผู้เรียน “สร้างธุรกิจ สร้างรายได้ ควบคู่ไปกับการเรียนปริญญาตรี” ทุกคนประสบความสำเร็จได้ในสถาบันแห่งนี้เพียงแค่ลงมือทำ”

สำหรับ 10 เหตุผลที่ ดร.แสงสุข มองว่าสถาบัน IESA เป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับผู้เรียนก็คือ
1.Education Innovation นวัตกรรมการศึกษา แห่งแรกของประเทศไทย
2.ตอบโจทย์สิ่งที่เด็กและคนในสังคมของประเทศต้องการ นั่นคือการเป็นเจ้าของกิจการ สร้างรายได้ไปพร้อมกับการเรียนในระบบ
3.มีโอกาสในการเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายธุรกิจ ที่จะมาสอนภาคปฏิบัติ ซึ่งแต่ละท่านเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจมาแล้ว 
4.มีธุรกิจเป็นของตัวเอง พร้อมต่อยอดทันทีหลังจบการศึกษา ทำให้สามารถประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น
5.มีธุรกิจให้ทดลองทำ เพื่อค้นหาความต้องการของตัวเอง
6.สอนการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ทำมากได้น้อยให้เป็น “ทำน้อยได้มาก”
7.ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน
8.การเรียนรู้ผ่าน Learning Pyramid (Lecture/ Reading/ Audio & Visual/ Demonstration/ Discussion Group/ Practice by Doing/ Teach Others)
9.การเยี่ยมชมและศึกษาดูงานในสถานประกอบการมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
10.เรียบจบได้ปริญญาตรีและมีรายได้จากการลงทุนทำธุรกิจ

“การเรียนที่นี่ต้องอาศัยทั้งความต้องการและความเข้าใจ เริ่มแรกเลยคือผู้ปกครองต้องสนับสนุน สองคือผู้เรียนต้องมีความอยากที่จะเรียน” เมื่อทั้งสองเห็นพ้องต้องกันแล้ว ขั้นตอนที่สามคือการตรวจ BOSI DNA (Builder Opportunist Specialist Innovation) หรือแบบทดสอบคุณสมบัติสำหรับผู้นำองค์กร เพื่อให้เรารู้วิธีการบ่มเพาะผู้เรียน ตามลักษณะบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเพื่อหาที่ปรึกษาทางธุรกิจซึ่งมีรูปแบบการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและผลักดันให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยเมื่อได้ผลลัพธ์จากแบบทดสอบ ขั้นตอนที่สี่นั่นก็คือการเริ่มต้นวางแผนธุรกิจและลงมือทำ

อย่างไรก็ตาม ทาง IESA ได้มีความพิเศษสำหรับปีการศึกษานี้ โดยางคณะบริหารธุรกิจมีทุนการศึกษาตลอดทั้ง 4 ปีพร้อมเปิดรับสมัครนักศึกษา ทั้งหมด 4 กลุ่ม กลุ่มละ 40 คน ได้แก่
กลุ่มที่ 1 คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 6 สามารถเรียนในระบบ Pre-degree เพื่อสะสมหน่วยกิต
กลุ่มที่ 2 คือ นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
กลุ่มที่ 3 คือ นักศึกษาปริญญาตรีต่างสถาบันที่ต้องการเรียนควบปริญญาตรีใบที่ 2 
กลุ่มที่ 4 คือ บุคคลที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและต้องการศึกษาต่อในคณะบริหารธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการมีรายได้เพิ่มเติมจากงานประจำ เนื่องจากเวลาเรียนไม่กระทบกับเวลางาน และเป็นกลุ่มที่ต้องการแนวทางในการเริ่มต้นทำธุรกิจ อีกด้วย..