นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเกินกว่า 90 ราย จนเกรงว่าจะกระทบกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท.ได้หารือกับนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกชน ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เอกชนและผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันยังรับมือไหว  

ขณะเดียวกันยังต้องติดตามยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 7 วันจากนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตจะพยายามลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงมาให้ได้ ตอนนี้จึงยังไม่มีนัยต่อการทบทวนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาโดยไม่ถูกกักตัว 

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตั้งแต่วันที่ 1-26 ก.ค. 2564 รวม 11,806 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อ 26 คน ส่วนใหญ่พบจากการถูกคัดกรองรอบแรก หลายคนที่ตรวจพบว่าเป็นซากเชื้อ ส่วนการคัดกรองครั้งที่ 2 ตรวจพบ 2 คน และครั้งที่ 3 ตรวจพบ 2 คน แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดเชื้อมาก่อน ไม่ได้มาติดจากคนในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดภูเก็ต ก็ปรับมาตรการตามแผนจากเบาไปหาหนัก ตอนนี้เริ่มปรับลดกิจกรรม ได้แก่ ปิดห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และห้างเซ็นทรัล ฟลอเรสตา ภูเก็ต 7 วัน ปิดสนามกีฬาฟุตบอล ฟุตซอล ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.-2 ส.ค.นี้ ปิดโรงเรียนจนถึงวันที่ 16 ส.ค และให้รวมกลุ่มทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 100 คน ขณะที่ตลาดนัด ตลาดสด จำกัดจำนวนคนใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.นี้ 

“ตอนนี้ไม่มีความคิดที่จะหยุดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต้องขึ้นอยู่กับทางจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ตัดสินใจ และการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกิดขึ้นตอนนี้ถือว่าเป็นการทดลองระบบที่วางไว้ เพื่อไปสู้เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4 และในเดือน ส.ค.นี้ นักท่องเที่ยวที่จะเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถบินมาต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ด้วย ซึ่งจะมีเครื่องของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ และสายการบินไทยสมายล์ ที่รับ-ส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับคนในประเทศ”