สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่านางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวถึงการที่รัสเซียประกาศยุติการส่งก๊าซธรรมชาติ ให้แก่โปแลนด์และบัลแกเรียเป็นสองประเทศแรก ว่าไม่สมเหตุสมผลและไม่สามารถรับได้ เนื่องจากเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลมอสโกใช้พลังงานเป็น “อาวุธทางการเมือง”


ทั้งนี้ ฟอน แดร์ เลเยน ยืนยันว่า อียูเตรียมมาตรการรับมือล่วงหน้าไว้แล้ว ที่รวมถึงการหาแหล่งพลังงานสำรอง และการขอให้สมาชิกแต่ละประเทศจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันด้านพลังงาน พร้อมทั้งย้ำว่า สมาชิกอียูทุกประเทศจะยังคงจ่ายค่าก๊าซให้แก่รัสเซียตามข้อตกลง ซึ่งไม่สามารถเป็นเงินยูโรได้ เนื่องจากจะเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดไว้


ขณะที่ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และผู้ให้บริการด้านก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก เผยแพร่แถลงการณ์ ยืนยันการระงับส่งก๊าซให้แก่บริษัทบัลกาก๊าซ ของบัลแกเรีย และพีจีเอ็นไอจี ของโปแลนด์ ตั้งแต่วันที่ 27เม.ย. นี้เป็นต้นไป เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมเป็นสกุลเงินรูเบิลได้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา


ด้านกระทรวงพลังงานของโปแลนด์และบัลแกเรียต่างแสดงความไม่พอใจ โดยตำหนิก๊าซพรอมว่าละเมิดข้อตกลง และยืนยันว่า จะไม่ต่อสัญญากับก๊าซพรอมอีก เมื่อสัญญาฉบับปัจจุบันสิ้นสุดช่วงสิ้นปีนี้ และการชำระเงินระหว่างนี้จะยังคงเป็นเงินยูโรเท่านั้น.

เครดิตภาพ : REUTERS