เมื่อวันที่ 25 เม.ย. เวลา 10.00 น. นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ รองโฆษกศูนย์การเลือกตั้ง ส.ก.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ ช่วย นายมินทร์ ลักษิตานนท์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตจอมทอง เบอร์ 5 หาเสียง โดยนั่งเรือไฟฟ้าต้นแบบ ลดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ล่องไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ชุมชนวัดใหม่ยายนุ้ย วัดราชโอรส สวนลิ้นจี่ 100 ปี  ที่มีลิ้นจี่บางขุนเทียนได้ขึ้นทะเบียน GI ของกรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังเขตจอมทอง

นายอภิชัย กล่าวว่า การหาเสียงตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคพลังประชารัฐได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เพราะผู้สมัครของพรรคทั้ง 50 เขต เดินหน้าลงพื้นที่ขอโอกาส ขอคะแนนเสียงต่อเนื่องทุกวัน ที่สำคัญผู้สมัครของพรรคล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีทั้งอดีต ส.ก. ที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในการที่จะเข้ามาดูพี่น้องประชาชน พร้อมที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนต่างๆ ตามแนวนโยบายของพรรค ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ปัญหาเรื่องการทำมาหากิน การค้าขาย ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อม การเพิ่มพื้นสีเขียว การเข้าถึงการบริการภาครัฐ ความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ ที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงมั่นใจว่าจะคว้าชัยชนะได้มากที่สุดแน่นอน

นายอภิชัย กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันไม่กังวลแม้ผู้สมัคร ส.ก.เขตนี้ เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เพราะพรรคเราสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนทางการเมือง คนรุ่นใหม่มีความรู้ความสามารถ มีไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาพื้นที่ อย่างนายมินทร์ ถือเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความตั้งใจเข้ามาเปลี่ยนแปลง แก้ปัญหา และพัฒนาชุมชนในเขตจอมทอง โดยเฉพาะการผลักดันการท่องเที่ยววิถีชุมชน ให้เป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยว อย่างวันนี้ที่พาสื่อมวลชนมาล่องเรือ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ผ่านวัดวาอาราม สวนลิ้นจี่ และคาเฟ่ในสวน ที่ผู้สมัคร ส.ก.ตั้งใจทำให้สำเร็จอีกหลายจุด ซึ่งหากทำได้ย่อมสร้างรายได้ให้ชุมชน มีการจ้างงาน มีการค้าขายดีขึ้นแน่นอน จึงมั่นใจว่าเขตจอมทอง จะได้รับชัยชนะ ส.ก.อย่างแน่นอน 

ด้านนายมินทร์ กล่าวว่า ตนมองว่า การท่องเที่ยวแบบนี้เป็นการดึงต้นทุนทางวัฒนธรรมมาส่งเสริมรายได้ เป็นการใช้ Soft power เพื่อให้คนหันมาสนใจท่องเที่ยวเฉพาะทางแบบนี้  อย่างใน กทม. เขตจอมทองเป็นเขตเดียว ที่มีสินค้าขึ้นทะเบียน GI คือ ลิ้นจี่บางขุนเทียน ส้มบางมด ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นต้นทุนที่ดีมาก เมื่อเราสื่อสารได้ตรงจุด กลุ่มเป้าหมายก็จะเปิดใจรับและมาเที่ยว การจ้างงานจะเกิดขึ้น ร้านค้าระหว่างทางมาถึงที่ท่องเที่ยวจะขายดีขึ้น ทุกอย่างจะหมุนมาสู่ชุมชนทันทีส่วนการลง ส.ก. ครั้งนี้ มีความมั่นใจที่จะได้รับชัยชนะ เพราะตนทำงานร่วมกับอดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขตจอมทอง มาหลายปี เข้าใจพื้นที่ เข้าใจปัญหา และยิ่งตลอดเกือบหนึ่งเดือนที่ลงพื้นที่หาเสียง กระแสตอบรับรวมถึงแรงสนับสนุนดีเกินคาด เพราะเราเป็นคนรุ่นใหม่ มีความตั้งใจ พูดจริง ทำจริงเช่น เรื่องการทำป้ายหาเสียงรูปแบบกระถางต้นไม้ที่เรามองเห็นปัญหาเรื่องป้ายที่บดบังทัศนวิสัย ประชาชนบ่นกันมาก จึงมีการปรับเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์

“ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้กระแสการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับคนในพื้นที่อยากเปลี่ยนแปลง อยากได้คนใหม่มาแก้ปัญหา พัฒนาพื้นที่ อย่างเช่นวันนี้ ที่มาลงชุมชน วุฒากาศ 46 มาพูดคุยกับชุมชน ก็เป็นการให้ชุมชนมีส่วนร่วมกับการหาพัฒนาในอนาคต ได้ใช้เวลาพูดคุย ไม่ใช่แค่เดินสวัสดีทั่วไป เราลงมาฟังเสียงเขา จึงมีโอกาสและความเป็นไปได้สูง ที่ตนจะคว้าชัยชนะในเขตนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่การตัดสินใจของพี่น้องชาวจอมทอง” นายมินทร์ กล่าว

ด้าน น.ส.บุณณดา กล่าวว่า หลังจากนี้ พรรคจะปรับเปลี่ยนการประชาสัมพันธ์ โดยเน้นให้ผู้สมัคร ส.ก.ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ควบคู่กับการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการหาเสียง เพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่ม มากยิ่งขึ้น ส่วนการเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคนั้น ขอหารือกันก่อน แต่เบื้องต้นอาจจะมีการจัดปราศรัยย่อยในเขตต่างๆ.