เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตคันนายาวและเขตบึงกุ่ม เริ่มตั้งแต่ตลาดเช้าสายเนตร รามอินทรา 77 ก่อนมุ่งหน้ารับฟังความคิดเห็นจากผู้นำชุมชนหลายพื้นที่ อาทิ ชุมชนเปรมฤทัย 1, ชุมชน บก. ทหารสูงสุด, ชุมชนสุเหร่าแดง, ชุมชนวิมานสุข

นายชัชชาติ กล่าวถึงแนวทางการป้องกันน้ำท่วมซ้ำซากว่าท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ มีความยาว ประมาณ 6,000 กม. และมีคูคลองประมาณ 2,600 กม. จากข้อมูลที่เรามี ที่ผ่านมาพบว่ามีการลอกคลองประมาณ 10% ต่อปี ลอกท่อระบายน้ำไม่เยอะ ดังนั้น เราต้องเอาจริงเอาจัง คูคลองต้องลอกอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง เพิ่มพื้นที่ความจุของน้ำ ส่วนท่อระบายน้ำควรลอกอย่างน้อยปีละ 3,000 กม. คาดว่าใช้เงินในการดำเนินการไม่เกิน 300 ล้านบาท และต้องสร้างแก้มลิงเพิ่ม

นอกจากนี้ นายชัชาติ เสอนนโยบาย เพิ่มเงินสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนและปรับการให้เป็นรายปี เนื่องจากปัจจุบันชุมชนได้รับงบประมาณเดือนละ 5,000-10,000 บาท ตามขนาดชุมชน ส่งผลให้ชุมชนไม่สามารถเขียนโครงการที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง จึงเสนอปรับเพิ่มเงินสนับสนุนคณะกรรมการชุมชน พร้อมปรับรูปแบบการสนับสนุนงบเป็นรายปี ตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของชุมชน เพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจให้กับชุมชนในการพัฒนาโครงการขนาดที่ใหญ่ขึ้น

เมื่อถามถึงการหาเสียงช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ กังวลเรื่องการดิสเครดิตหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่าต้องเอาความจริงเข้าสู้ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอธิบายให้เร็วขึ้น ไม่คิดว่าการเมืองสมัยนี้ยังมีเรื่องพวกนี้อยู่ ต้องฝากประชาชน หากไม่มั่นใจข้อมูลว่าเท็จหรือจริงอย่าไปส่งต่อ การดิสเครดิตกลายเป็นเครื่องมือของการทำร้ายกันทางการเมือง ไม่เฉพาะตนเอง เชื่อว่าทุกคนก็โดนหมด.