“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เจ้าของเหรียญทอง รุ่น 49 กก.หญิง ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ปะเทศญี่ปุ่น ที่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย และเข้าโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงกักตัว 14 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ค. “น้องเทนนิส” ยังไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก โดยกล่าวว่า ก่อนแข่งขันไม่ได้รู้สึกกดดันเลย ทั้งโค้ชและทีมงาน บอกว่าเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ผลการแข่งขันจะเป็นยังไงเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะได้หรือไม่ได้เหรียญทอง มันก็เป็นแค่บทเรียนอีกหน้ากระดาษ เราจะอยู่เคียงข้างกัน ดังนั้นจะแพ้ก็ได้ ชนะก็ได้ หนูไม่เครียดเลย ขณะที่ เรื่องข่าวที่ลงว่าเราเป็นตัวความหวังเบอร์ 1 ตัวเต็งเหรียญทองนั้น “โค้ชเช” บอกว่าเรื่องข่าวไม่ต้องเอามาคิดหรือเอามากดดันตัวเอง เพราะข่าวก็คือข่าว เขาจะเขียนยังไงเราไม่ต้องโฟกัสคำพูดตรงนั้นเลย

ส่วนคู่ชิงเหรียญทอง อาเดรียนา จากสเปน นั้น เราก็มีวิดีโอศึกษาการเล่นมาบ้าง มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ยุโรป แต่ไม่คิดว่าน้องเขาจะผ่านเข้าชิงได้ เพราะสายนั้นหนักมากทั้งจีนและเซอร์เบีย น้องเขาเล่นขาข้างซ้าย เราก็ฝึกซ้อมกับนักกีฬาที่เล่นขาข้างซ้ายมาด้วย จึงได้ประโยชน์อย่างมาก เอามาใช้ตรงนี้ได้ หนูฝึกจิตวิทยามามาก เราจึงไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย หลังจบเกมก็ชมเขาไปว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว ให้กำลังใจไปว่าคุณจะต้องทำได้แน่นอนในครั้งต่อไป

“ตอนน้องร้องไห้แต่หลังจากนั้นก็เดินมายกนิ้วให้เรา เราก็ยกนิ้วให้กำลังใจกลับไป ซึ่งตรงนี้หนูประทับใจมากค่ะ ตอนขึ้นโพเดียม น้ำตาไหล เพราะเราผ่านการซ้อมที่หนักยากลำบากมากๆ จึงเป็นความภาคภูมิใจสุดๆ ทำให้คนไทยยิ้มได้ มีความสุขในเวลาที่ยากลำบาก”

“ตอนเย็นจะลงไปฟิตเนส ออกกำลังกาย เพราะว่าอึดอัดที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ตอนนี้น้ำหนักขึ้นมา 3 กก. อยู่ที่ 52 กก.แล้ว ส่วนเคล็ดลับในคุมน้ำหนักของหนูนั้น มื้อเย็นจะไม่กินแป้งเลย ทั้งเส้นและข้าวไม่ทานเลย ต้องตัดคาร์โบไฮเดรตและน้ำหวาน ส่วนมื้อเช้ากับกลางวัน พวกของทอดของมันก็ต้องตัด ทั้งที่เป็นของชอบของหนูหมดเลย ส่วนเมนูโปรดก็เป็นอาหารญี่ปุ่น ปลาดิบ กินแล้วเหมือนเพิ่มพลัง ส่วนน้ำอัดลม ขนมคุกกี้ ก็กินบ้างเพื่อให้กระชุ่มหัวใจ ส่วนโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้หนูพกเอ็นหมูฝอยไปด้วย” น้องเทนนิส กล่าว

“ครั้งนี้พ่อ (สิริชัย วงศ์พัฒนกิจ) ไม่ได้ไปเชียร์ที่ข้างสนาม ก่อนแข่งหนูก็บล็อกไลน์พ่อด้วย หนูแทบไม่คุยกับที่บ้านหรือกับใครเลย ไม่อยากเอาความกดดันมาใส่ตัว จะปล่อยวางตัดทุกอย่างเพื่อโฟกัสกับเกมเท่านั้น แต่รับรู้ได้ว่าทุกคนเป็นห่วงมาก แต่วิดีโอคอลคุยกันจากมือถือของโค้ช เพราะโค้ชจะเก็บโทรศัพท์ห้ามเล่นเลย”

จากนั้น “น้องเทนนิส” ได้ตอบคำถามของแฟนๆ กีฬาชาวไทย โดยกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่เลวร้ายจากโอลิมปิกเกมส์ 2016 แต่ครั้งนี้เรามาด้วยความมั่นใจฝึกซ้อมมาเต็มที่เพื่อวันนี้ ประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบคนอื่น แต่เราเสียเปรียบวงในเพราะขายาว จะเตะไม่ถนัด ถือเป็นจุดอ่อน รอบชิงยังเล่นได้ไม่ดีพอ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ หนูจะเอาข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไข พัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดีกว่านี้

ส่วนแรงบันดาลใจนั้นต้องยกให้คุณพ่อ พ่ออยากให้หนูติดทีมชาติไทย และหนูก็ทำความฝันของพ่อและครอบครัวสำเร็จแล้ว อีกอย่างแม่หนูเสียตั้งแต่ 7 ขวบ ยังไม่ทันดูหนูเล่นเทควันโดเลย หนูคิดถึงแม่มาก อยากบอกว่าแม่ว่าแม่คือแรงใจของหนู ทุกครั้งที่ลงแข่งหนูจะไหว้แม่ขอพรจากแม่ อีกคนคือคุณยายที่เสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว ทั้งสองท่านคือผู้มีพระคุณของหนู จากนี้หนูจะเอาเหรียญทองไปวางหน้ารูปแม่กับยาย แล้วบอกว่าหนูทำได้แล้ว แม้จะเสียดายที่ไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จ แต่ท่านทั้งสองก็คงรับรู้ถึงความสำเร็จของหนูในวันนี้