บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 21 เม.ย.65 ยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน จากผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่ออกมาดูดี และกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวขึ้นรับค่าการกลั่นสูงเป็นประวัติการณ์และมีแนวโน้มที่ตลาดจะปรับประมาณการดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ รวมทั้งยังมีการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,690.55 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด หรือ 0.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 71,126.55 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 689.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด หรือ 0.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12,515.95 ล้านบาท

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ระยะนี้ตลาดหุ้นผันผวนและคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาว แม้นักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,650-1,700 จุด ขณะที่ปัจจัยกดดันการลงทุนยังคงมีต่อเนื่อง อาทิ สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้นในเดือน มี.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.64 ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีนี้ กดดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 154.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

2.ธ.เกียรตินาคิน ปิดที่ 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท

3.อีเอ ปิดที่ 90.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

4.ซีพีออลล์ ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง -1.25 บาท

5.บ้านปู ปิดที่ 11.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง