เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่สำนักงานใหญ่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ได้แถลงการณ์เพื่อชี้แจงกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) พร้อมสมาชิกไปยื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่องขอให้เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. เมื่อวันที่ 20 เม.ย.65

นายกิตติกานต์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ขสมก. มีปัญหารถโดยสาร (รถเมล์) ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี จำนวน 2,885 คัน และในแต่ละวันจะมีรถวิ่งให้บริการประมาณ 90-95% แต่ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ และรถยังมีสภาพเก่า ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ก่อให้เกิดมลพิษ นอกจากนี้ ขสมก. ยังมีปัญหาเรื่องการขาดทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริการสาธารณะ หรือ PSO ทำให้มีต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ค่าบริหารจัดการเหมาซ่อม ค่าบำรุงรักษา และค่าจ้างบุคลาการในการเดินรถ ขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูองค์การ และมีการปรับแผนจากปี 62 ที่เป็นการซื้อเช่าเป็นการจ้างเหมาเอกชนแทน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันในระหว่างที่รอการพิจารณาแผนฟื้นฟู ขสมก. จำเป็นที่จะต้องจัดหารถก่อน ซึ่งเป็นแผนระยะสั้น 2 ปี เนื่องจาก ขสมก. ได้ใบอนุญาตการเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยกำหนดว่า ภายใน 1 ปี ขสมก. ต้องบรรจุรถใหม่ไม่น้อยกว่า 30% ใน 90 เส้นทาง จึงต้องเร่งดำเนินการจ้างเอกชนในการเดินรถ ซึ่งกำหนดว่า จะเป็นการจ้างเหมาบริการให้เอกชนจัดหารถ พร้อมพนักงานขับรถ แต่การบริหารจัดการ ความถี่รถ การปล่อยรถ เป็นของเขตการเดินรถทั้ง 8 เขต ส่วนเอกชนได้รายได้จากการจ้างของ ขสมก. คิดเป็น กม.

นายกิตติกานต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เรื่องแผนจัดหารถดังกล่าว คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. พิจารณาเห็นชอบตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ในการจัดหารถโดยสารไฟฟ้า (อีวี) จำนวน 400 คัน คาดว่าจะประกาศทีโออาร์ในเดือน พ.ค.นี้ และสามารถจัดหารถได้ในเดือน ต.ค.65 แต่หากมีผู้คัดค้าน ก็จะทำให้ระยะเวลาในการดำเนินการเพิ่มขึ้นอีก

ส่วนกรณีที่สหภาพฯ ขสมก. ตั้งข้อสังเกตว่า การเหมาจ้างให้เอกชนมาเดินรถ คันละ 6,000 กว่าบาทต่อวัน สูงเกินกว่าความเป็นจริงนั้น ขอชี้แจงว่า หากคิดต้นทุนตามข้อเท็จจริง รถเมล์ธรรมดา (รถร้อน) สีครีมแดงของ ขสมก. มีค่าใช้จ่ายต้นทุน เกิน 6,000 บาท ต่อคันต่อวัน แบ่งเป็น ค่าเหมาซ่อม 1,400 บาทต่อคันต่อวัน ค่าเชื้อเพลิง หากคิดค่าน้ำมันราคาดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 28-30 บาท ประมาณ 2,600 บาทต่อ กม. ค่าจ้างคนขับรถ ขสมก. 3,000 บาทต่อคันต่อวัน แต่หากจัดหารถใหม่ จะมีต้นทุนดำเนินการใกล้เคียงกับการขอเงินอุดหนุน PSO แต่จะมีต้นทุนถูกกว่าบริหารจัดการในปัจจุบัน เพราะเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) ค่าเชื้อเพลิงอยู่ที่ 3.50 บาท และตามสัญญาเป็นภาระเอกชน ทำให้ต้นทุนลดลง

นายกิตติกานต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 30 บาทต่อคนต่อวันโดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยวการเดินทางนั้น ราคาค่าโดยสาร 30 บาท เป็นราคาในแผนฟื้นฟู ที่ยังไม่ได้รับการเห็นชอบจาก ครม. ยืนยันว่า จะยังใช้ราคาปกติรถเมล์ร้อน สีครีมแดงอยู่ที่ 8-10 บาท ส่วนรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) อยู่ที่ 15-25 บาทตามระยะทางปัจจุบัน ขสมก. มีผู้โดยสารใช้บริการในวันธรรมดา ประมาณ 500,000-600,000 คนต่อวัน และ ในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ อยู่ที่ 300,000-400,000 คนต่อวัน ซึ่งแตกต่างจากปี 62 ที่ยังไม่การระบาดของโควิด-19 มีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 900,000 คนต่อวัน