เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่กระทรวงธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวเฟนเฟซบุ๊กไลฟ์ “กระทรวงสาธารณสุข” ว่า สิ่งที่เราต้องการการสนับสนุนมากในตอนนี้ในการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 มี 5 ด้าน คือ 1. นโยบายที่ชัดเจน ตอนนี้ยังพบการจราจรหนาแน่น การล็อกดาวน์ดูเหมือนจะยังไม่ล็อกดาวน์เท่าไหร่ ตรงนี้ต้องเข้มข้นขึ้น  2. ระบบการควบคุมโรคที่ดีจะเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้นท้องถิ่น พื้นที่ ชุมชน รวมถึงมาตรการของทางรัฐบาลเองในเรื่องระบบควบคุมโรคจะต้องชัดเจนพยายามกด Curve การระบาดลงให้ได้ ตอนนี้สถิติของการระบาดโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกินกำลังที่ระบบสาธารณสุขหรือเตียงจะรองรับได้ไปอย่างน้อย 3 เท่าแล้ว

3.ระบบการรักษาพยาบาล ยืนยันว่าหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพที่อยู่หน้างาน ยังยินดีทำงานเต็มที่ ยินดีที่จะดูแลผู้ป่วยทุกคน แต่มันล้นเตียงจริงๆ มีผู้ป่วยต้องนอนรอที่ห้องฉุกเฉินอีกจำนวนมาก เฉพาะที่ รพ.ราชวิถี ตรวจสอบล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมารออยู่ 10 กว่าเตียง และโดยส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ไม่เฉพาะ รพ.สังกัดกรมการแพทย์ แต่รวมถึงโรงเรียนแพทย์ รพ.ทหาร รพ.ตำรวจ และอาจจะรวมไปถึง รพ.เอกชน ที่เตียงตึงมาก แต่พี่น้องบุคลากรที่อยู่หน้างานทำงานตั้งใจกันเต็มที่ 4. การฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดความสูญเสียได้ และ 5. ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตนเข้าใจดีว่าทุกภาคส่วนก็เหนื่อยมามากเพราะตั้งการ์ดสูงกันมาปีกว่าแต่ขอให้ช่วยกันต่อ ขอยืนยันอีกครั้งว่าบุคลากรสาธารณสุขทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจ เรามั่นใจว่าคนไทยไม่ทิ้งกัน เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต

เมื่อถามย้ำถึงภาวะวิกฤติของห้องฉุกเฉิน นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า อย่างที่ชี้แจงมาตลอดว่าเตียงสีแดง สีเหลือง ทั้งภาครัฐ และเอกชนตึงเต็มที่ และจริงๆ ต้องบอกว่าติดลบแล้วได้ซ้ำ บางแห่งรับได้ 10 เตียง ก็รับเข้าไป 12 เตียง ดังนั้นขณะนี้เตียงสีเขียวที่ยังว่างหลังจากที่เราได้ปรับให้ผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน จึงอยากปรับตรงนี้เพื่อรองรับผู้ป่วยอาการสีเหลือง ที่กำลังจะเหลืองเข้มขึ้นมาหน่อย เพราะตอนนี้ฮอสพิเทลมีอยู่ประมาณ 2 หมื่นเตียง ถ้าปรับ 10% มารับผู้ป่วยสีเหลือง ก็จะมีเตียงเพิ่มอีก 2 พันเตียงทันที แต่ตอนนี้ยังติดขัดในเรื่องของเครื่องผลิตออกซิเจน หรือถังออกซิเจนมากพอสมควร ได้ข่าวว่ามีการลักลอบนำออกไปต่างประเทศด้วยโดยเฉพาะทางแถบชายแดนเมียนมา.