สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่าสำนักงานอัยการสูงสุดของอินโดนีเซียเผยแพร่แถลงการณ์ เริ่มสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้นกับกระบวนการพิจารณาอนุมัติ ใบอนุญาตส่งออกน้ำมันปาล์ม โดยในเบื้องต้น มีการตรวจพบเบาะแส ว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องบางแห่ง ยังมีมาตรฐานการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของภาครัฐ แต่กลับออกใบอนุญาตดังกล่าว


ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยในกรณีนี้มีอย่างน้อย 4 คน ณ เวลานี้ ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงการค้าของอินโดนีเซีย และเจ้าหน้าที่อีก 3 คนของบริษัท “มูซิม มาส” “พีที วิลมาร์ นาบาติ อินโดนีเซีย” และ “เปอร์มาตา ฮิเจา กรุ๊ป”


ด้านนายมูฮัมหมัด ลุฟตี รมว.การค้าของอินโดนีเซีย กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าหน่วยงานทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนบริษัทอีกสามแห่งยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ


ปัจจุบัน อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากหลายฝ่ายภายในประเทศ ให้ควบคุมการส่งออกน้ำมันปาล์ม ท่ามกลางวิกฤติห่วงโซ่อุปทาน และความผันผวนอย่างหนักของราคาอาหารโลก เนื่องจากสงครามในยูเครน


ขณะที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการสวนปาล์ม เหมืองแร่ และการใช้ฟื้นที่ป่าด้วยอีกหลายเหตุผล รวมมากกว่า 2,000 รายการ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ได้รับอนุญาตไม่สามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน หรือไม่ดำเนินการตรงตามวัตถุประสงค์ที่เคยแจ้งไว้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรมากกว่า 18.7 ล้านไร่.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES