นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการงานก่อสร้างสถานีศิริราชของโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และงานก่อสร้างสถานีศิริราชของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เข้าด้วยกันร่วมกับงานก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราช มีมติขยายเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีศิริราชและอาคารรักษาพยาบาลระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะสิ้นสุดระยะเวลาบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ค.65
นายชยธรรม์ กล่าวต่อว่า โดยจะขยายไปจนกว่าโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และอาคารรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราช จะแล้วเสร็จทั้ง 3 โครงการ เพื่อเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจดังกล่าว และให้เกิดการบูรณาการการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณสถานีศิริราชอย่างสูงสุด พร้อมกันนี้ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันจากทั้ง 3 ฝ่ายร่วมด้วยกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางบูรณาการแผนอำนวยการก่อสร้าง ปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับปัจจุบันและกำหนดแผนปฏิบัติการของโครงการที่แสดงภาพรวมของกิจกรรม (Activity list) ต่อไป
นายชยธรรม์ กล่าวอีกว่า โครงการบูรณาการงานก่อสร้างสถานีศิริราช เป็นความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีศิริราชของรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีแดง ร่วมไปกับอาคารโรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้สถานีศิริราชเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางสำคัญของประชาชนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลศิริราช ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่เป็นโครงข่ายระหว่างฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และฝั่งธนบุรี ควบคู่กับโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ที่เป็นโครงข่ายจากสถานีศิริราช ไปพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ
และยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางด้วยระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เข้าสู่พื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกภายในอาคารเดียวกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทดแทนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ภายใน และพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลศิริราชด้วย.