นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง 159.69 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ฤดูกาลผลิต 62/63 ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ ยสท. และกรมสรรพสามิต รวม 14,292 ราย โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรผู้ได้รับสิทธิโดยตรงภายใน 150 วัน นับจากวันที่ ครม.เห็นชอบ
สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาจะแบ่งเป็น 3 ประเภทใบยา ได้แก่ ใบยาเวอร์ยิเนีย ประกอบด้วย ชาวไร่ 2,378 ราย ผู้บ่มอิสระ 54 ราย ชาวไร่ใบยาสด 1,807 ราย , ใบยาเบอร์เลย์ ชาวไร่ 6,562 ราย และใบยาเตอร์กิช ชาวไร่ 3491 ราย โดยรัฐบาลให้ความช่วยเหลือโดยจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระคิดเป็น 70% ของรายได้ที่หายไป
ทั้งนี้จะคำนวณเงินช่วยเหลือจากปริมาณโควตาการผลิตใบยาที่ลดลงในฤดูกาลผลิต 62/63 เปรียบเทียบกับปริมาณโควตาที่ได้รับในฤดูกาลผลิต 60/61 คูณด้วย 70% ของรายได้ที่หายไป โดยเกษตรกรผู้ปลูกต้นยาสูบจะได้รับเงินช่วยเหลือตามปริมาณการรับซื้อใบยาสูบที่ลดลงจริงในแต่ละประเภทใบยา และปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวต้องไม่มีการปลูกยาสูบทดแทนด้วย
“วิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปลูกใบยาสูบจะมีคณะกรรมการฯ ตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล ส่งให้ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. ของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ภายใน 150 วัน นับตั้งแต่ ครม.มีมติเห็นชอบ”