สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่า เรือสำราญเข้าจอดเทียบท่าในท่าเรือซิดนีย์เป็นครั้งแรกในเวลามากกว่า 2 ปี หลังรัฐบาลออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งห้าม ที่ประกาศเมื่อปี 2563

ในช่วงเช้าที่สดใส เรือสำราญ แปซิฟิก เอ็กซ์พลอเรอร์ แล่นเข้าท่าเรืออย่างยิ่งใหญ่ โดยมีเรือลากจูงพ่นน้ำอยู่ด้านข้าง และมีป้ายขนาดใหญ่ที่อ่านว่า “เรากลับถึงบ้านแล้ว” พาดอยู่ที่หัวเรือ

ฝูงชนรวมตัวกันที่ฐานของสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ เพื่อดูการมาถึงของเรือสำราญ ซึ่งเริ่มการเดินทางกว่า 18,000 กม. กลับมายังออสเตรเลีย เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว

เรือสำราญระหว่างประเทศถูกสั่งห้ามเข้าน่านน้ำออสเตรเลียเมื่อเดือน มี.ค. 2563 หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายวงจากเรือ รูบี พรินเซส ซึ่งเกี่ยวโยงกับผู้ติดเชื้อไวรัสหลายร้อยคน และผู้เสียชีวิต 28 คน โดยส่วนมากเป็นผู้สูงอายุจากบ้านพักคนชรา

แปซิฟิก เอ็กซ์พลอเรอร์ และเรือสำราญอีก 2 ลำ ที่มีบริษัท พี แอนด์ โอ เป็นเจ้าของ ต้องทอดสมอที่ชายฝั่งไซปรัส ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อรอให้ออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งห้าม เป็นการบรรเทาที่ล่าช้าจากคลื่นโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การจองเที่ยวเดินเรือออสเตรเลียของบริษัท พี แอนด์ โอ ในตอนนี้ ใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิดการระบาด ลินด์ซีย์ กอร์ดอน โฆษก กล่าว

“ตอนนี้เราเห็นถึงโอกาสของฤดูล่องเรือภาคฤดูร้อน ที่ใกล้จะกลับมาเป็นปกติสำหรับปี 2565-2566”

ก่อนการระบาดโรคโควิด-19 เรือสำราญราว 350 ลำ เดินทางเข้าออสเตรเลียพร้อมผู้โดยสารมากกว่า 600,000 คน ทำให้อุตสาหกรรมเรือสำราญสร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจของประเทศราว 5,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท) จากข้อมูลของ สมาคมการเดินเรือสำราญนานาชาติ (ซีแอลไอเอ)

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES