เมื่อปี 2561 เลอเฟอแฝง ชายชาวเวียดนามวัย 47 ปี ขายลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองวัย 13 ปี ให้ชายชาวจีนคนหนึ่งในราคากว่า 150 ล้านดง (ราว 220,000 บาท) เพราะเขามีเงินไม่พอจ่ายค่ารักษาโรคหัวใจของตัวเอง โดยเขาได้ไปพบกับนางเลอตีกัม วัย 35 ปี เพื่อเสนอขายลูกสาว

เลอตีกัม แนะนำเขาให้ไปพบนางมุนตีซุม วัย 46 ปี จากนั้น มุนตีซุมและชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งเขาแนะนำเพียงชื่อสกุลว่า ‘หง’ ก็นำตัวลูกสาวของ เลอเฟอแฝง ไปยังประเทศจีน เพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งในราคา 150 ล้านดง

เลอเฟอแฝง ได้เงินจากการขายลูกสาวเป็นจำนวน 100 ล้านดง (ราว 146,000 บาท) ส่วนมุนตีซุมและเลอตีกัมได้เงินคนละ 7 ล้านดง (10,250 บาท) และ 13 ล้านดง (19,040 บาท) ตามลำดับ

ลูกสาวของเลอเฟอแฝง แอบหนีออกมาได้และเดินทางกลับเข้าประเทศเวียดนาม ในเดือน ต.ค. 2564 จากนั้นเธอก็แจ้งตำรวจหน่วยสืบสวนในเขตเกเซิน จังหวัดเงียอาน ทำให้ในเวลาต่อมา พ่อของเธอก็โดนจับกุมและฟ้องศาลในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นความผิดในคดีอาญา

จำเลยทั้งสามยอมรับสารภาพว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหาต่อหน้าบัลลังก์ศาล เลอเฟอแฝง อ้างว่าเขาเป็นคนไม่มีความรู้และยากจน จึงใช้ความคิดไม่เป็น

ศาลตัดสินลงโทษ มุนตีซุม ด้วยการจำคุก 13 ปี ส่วน เลอตีกัม รับโทษจำคุก 12 ปี และแม้ว่าโจทก์จะขอร้องศาลให้ผ่อนผันโทษให้พ่อของเธอ เลอเฟอแฝง ก็ยังต้องรับโทษจำคุก 14 ปี เนื่องจากกระทำความผิดในข้อหากระทำการซื้อขายบุคคลที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

แหล่งข่าว : e.vnexpress.net

เครดิตภาพ : Getty Images