เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ในนามอิสระ กล่าวถึงประเด็นที่ถูกนำไปเปรียบเทียบว่าเป็นกลุ่มที่อาจจะถูกแย่งคะแนนกันเองกับผู้สมัครอย่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และ นายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าจริงๆ ตนไม่ได้คิดว่าเป็นการแข่งกัน แต่สิ่งสำคัญคือคิดว่าแข่งกับตัวเองมากกว่า นั่นคือการจะทำอย่างไรเพื่อเปิดตัวเองในระยะเวลาอันสั้นให้คนกรุงเทพฯ เห็นศักยภาพให้ได้

ส่วนเรื่องฐานคะแนน นายสกลธีบอกว่าคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการทับซ้อนกันอยู่บ้าง แต่ตนเชื่อว่าสำหรับคนกรุงเทพฯ กับการเลือกตั้งต่างๆ การเลือกอะไรที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ หรือเลือกตั้งระดับชาติ คนกรุงเทพฯ จะมีวิธีการเลือกอะไรที่แตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งครั้งนี้ก็คิดว่าเหมือนกัน แต่หน้าที่สำคัญของตนเองตอนนี้ คือแสดงให้เห็นศักยภาพและการทำงาน แต่หลายคนที่เคยเห็นตอนทำงาน จะเห็นสไตล์การทำงาน ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าสิ่งที่ตนนั้นกำลังพยายามทำอยู่คืออะไร และเชื่อว่าจะถูกใจคนกรุงเทพฯ

“แนวการทำงานของผมคือรู้เห็นปัญหา กรุงเทพฯ ต้องแก้ที่รากฐาน คือตั้งแต่เรื่องการจัดวางงบฯ เรื่องโครงการต่างๆ แต่ถ้าเราดูแต่โครงการอยากทำแต่ไม่ดูงบประมาณ มันจะฟุ้งไปหมด พอถึงเวลา งบฯ ก็ไม่พอ และสิ่งที่ผมจะทำต่อไปก็จะต้องเป็นสิ่งที่ยั่งยืน และอยู่ได้โดยไม่ทิ้งภาระให้คนรุ่นหลัง สิ่งที่ผมทำอยู่จะต้องเป็นประโยชน์ให้กับคนกรุงเทพฯ จากประสบการณ์สี่ปีที่ผ่านมา ผมเห็นอะไรมาเยอะ ทำให้เห็นข้อจำกัดว่าทำไมกรุงเทพฯ เราถึงดีกว่านี้ไม่ได้ ได้รวบรวมไว้แล้ว ถ้ามีโอกาสได้ทำกรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่านี้ได้แน่นอน”

นายสกลธี กล่าวต่อว่าตอนนี้สิ่งรู้สึกดีใจที่วลี “ทำทันธี” ของตน มีคนพูดถึงมาก และมีการนำไปใช้ในสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้คนรู้จักมากขึ้น เพราะจริงๆ แล้ววลีนี้สะท้อนสไตล์การทำงานของตนตั้งแต่เป็นรองผู้ว่าฯ เพราะอะไรที่ทำให้ได้ตนทำทันที ส่วนเรื่องที่จำเป็นแต่ต้องใช้งบประมาณก็ต้องทำทันทีเช่นกัน แต่เป็นการทำในแนวการไปประสานเพื่อให้ภาพใหญ่เกิด และวลีนี้ยังเป็นการสะท้อนตัวตนที่กระฉับกระเฉงการเป็นคนอายุน้อยของตนที่อยากทำงาน ตอบโจทย์กับปัญหากรุงเทพฯ ที่จุกจิก เยอะ มีปัญหาตั้งแต่ตื่นเช้ามา ถ้าเจอคนอืดอาดแล้วไม่ทำทันที ก็คิดว่าไม่ตอบโจทย์

“ตอนนี้ “ทำทันธี” เห็นมีการเผยแพร่ และมีคนนำไปใช้เยอะเหมือนกันในสื่อต่างๆ ก็รู้สึกดี แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เป็นสโลแกน หรือสิ่งที่ผมนำมาเขียนให้โก้ๆ แต่มันเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวเองจริงๆได้เป็นผู้ว่าผมจะทำทันทีในทุกๆ อย่างที่ได้รับมอบหมาย ตอนนี้ดีใจที่เห็นหลายคนเอาไปใช้ เป็นการช่วยโปรโมตเราให้คนที่ยังไม่ได้รู้จักได้รู้จักเราได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่คนจดจำได้ และหากผมได้ไปเป็นผู้ว่าฯ แล้วไม่ทำทันที นี่ก็สามารถมาทวงสัญญาได้เลย” นายสกลธี กล่าว