นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 65 โดยมีมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 205 จุด ทั่วประเทศ วันที่ 11-17 เม.ย.65 เพื่อให้พี่น้องประชาชน “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19” ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

โดยผลดำเนินการ 4 วัน (11-14 เม.ย.65) ตรวจรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถแล้ว 41,520 คัน พบข้อบกพร่อง สะสมจำนวน 16 คัน เฉพาะวันที่ 14 เม.ย.65 พบรถบกพร่อง 2 คัน สั่งให้เปลี่ยนรถทันที 1 คัน เนื่องจากพบระบบ GPS ไม่เชื่อมต่อ โดยได้สั่งการให้เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยแล้ว และอีก 1 คัน ขับออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้มีการออกคำสั่งผู้ตรวจการและจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ 41,520 ราย มีความพร้อมในการให้บริการทุกราย ไม่พบพนักงานขับรถที่มีชั่วโมงการขับรถเกินกฎหมายกำหนด ในส่วนผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS สะสม 4 วัน 247,415 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 373 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสาร และรถบรรทุก ด้วยกล้องเลเซอร์ บนถนนสายหลักและสายรองที่มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพมหานคร 6,968 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 58 คัน

ทั้งนี้จะประสานผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระงับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะแล้ว ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จำนวน 118 เรื่อง พบปัญหาไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายหยุดรถมากที่สุด รองลงมา คือ ขับรถประมาท น่าหวาดเสียว และควันดำ ซึ่งจะเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชม.

นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่า เทศกาลสงกรานต์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัย เข้มข้นตรวจความพร้อม โดยเฉพาะพนักงงานขับรถพนักงานขับรถทั้งหลักและสำรองต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ พักผ่อนให้เพียงพอเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องไม่มีสารเสพติด และแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ หากตรวจพบมีสารเสพติดหรือมีแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

กรณีตรวจสอบพบก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้เปลี่ยนพนักงานขับรถที่มาความพร้อมมาทดแทน สำหรับรถโดยสารสาธารณะต้องมีสภาพมั่งคงแข็งแรง หากตรวจพบรถบกพร่องซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สั่งห้ามใช้รถและต้องนำไปแก้ไขข้อบกพร่องทันที โดยผู้ประกอบการต้องหารถคันใหม่มาทดแทน เพื่อให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยทุกคน