จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีเหยื่อถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เม.ย. “ทนายตั้ม” ได้ออกมาไลฟ์ อัพเดตถึงเรื่องราวดังกล่าว ระบุว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายแล้ว 10 กว่าคน ทั้งที่ตนเพิ่งโพสต์เรื่องราวไปไม่ถึง 24 ชม. พบไม่ใช่แค่การลวนลาม แต่เป็นการข่มขืนหลายคนที่ส่งหลักฐานมาหา แต่คนเหล่านี้กลัวอิทธิพล
สำหรับเคสของน้องต้นเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มจากคุณแม่ของน้องทักมาในไลน์แอด โดยน้องซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวถูกรองหัวหน้าพรรคหลอกลวงไปทำมิดีมิร้าย ส่วนน้องในเคสนี้อายุ 18 ปี ไป คุณแม่ก็เป็นแฟนคลับผม น้องเรียนดี เรียนด้านกฎหมายตั้งแต่มัธยม จนตอนนี้สามารถเรียนถึงปี 3 ปี 4 ด้วยอายุเพียง 18 ปี ก็อยากให้น้องฝึกงานกับผม
สำหรับการเจอรองหัวหน้าพรรคคนนี้ เริ่มจากการที่ไปฟังเขาพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจ คุณแม่ก็ปลาบปลื้ม มีการแลกเบอร์แล้วนัดไปพูดคุยกันที่ร้านอาหาร ทราบมาว่าได้หลอกเหยื่อคนอื่นๆ ไปที่ร้านนี้หลายครั้ง ส่วนของน้อง เมื่อไปถึงก็ไม่มีการคุยเรื่องเศรษฐกิจ แต่กลับถามเรื่องเพศ ทั้งมีแฟนรึยัง เคยมีเพศสัมพันธ์ไหม แอบมาลวนลามจับมือ จับก้นตอนที่น้องลุกไปเข้าห้องน้ำ จะเข้ามาจูบ พยายามให้น้องดื่มแอลกอฮอล์ จนน้องอยากจะกลับก็คะยั้นคะยอพยายามจะมาส่ง ซึ่งระหว่างทางก็พยายามจะมาจับเนื้อตัวโดยที่น้องพยายามหลบหลีกตลอด ซึ่งเมื่อกลับบ้านก็ยังไม่กล้าเล่าให้แม่ฟัง เพราะว่าคนนี้แม่ปลื้มมาก จนภายหลังแม่รู้เรื่อง คุณแม่ก็เสียใจ มองว่าเป็นไอดอลทำเพื่อประเทศ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงได้ติดต่อมาหาผม
ผมบอกคุณแม่ว่าต้องไปแจ้งความแล้วคุณแม่มาเจอผมในวันที่ 12 เม.ย.เลย ก็ต้องชื่นชม สน.ลุมพินี ที่มีการสอบปากคำทันทีเลย เราเลยมาเจอกันในวันที่ 13 เม.ย. ทีเดียวเลยเพราะว่าดึกแล้ว ตอนนี้รองหัวหน้าพรรคคนนี้ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อพยายามจะขอโทษ ขอมาพบ มาปรับเข้าใจ พยายามจะบอกว่าไม่มีเจตนาร้าย จะขอคุยกับน้อง ซึ่งน้องก็ร้องไห้ทันที ขยะแขยงแค่นึกหน้าก็จะอ้วกแล้ว “วันนี้เราต้องออกมาเผยเรื่องคนสารเลวแบบนี้ ไม่งั้นก็จะไปทำกับคนอื่นอีก เพราะตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อมา 10 กว่าคนแล้ว”
“รองหัวหน้าพรรคคนนี้ไม่รู้ว่าชื่นชอบเด็กอายุ 18 หรือไม่ เพราะเคยก่อเหตุที่อังกฤษ ตอนที่เขาอายุ 25 ปี ก็ก่อเหตุกับเด็กอายุ 18 ปี ก็ไม่รู้ว่าคดีเป็นอย่างไร แต่เขาก็มาชุบตัวกลายเป็นนักการเมือง” ซึ่งคนที่แจ้งเข้ามาถึงพฤติกรรมของรองหัวหน้าพรรคคนนี้ อาทิ
“เป็นผู้หญิงนักศึกษาการเงิน เชื่อว่าเขามีความรู้จึงไปฝึกงานด้วย คนในวงการหุ้นรู้ชื่อเสียงนายคนนี้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ก่อนและหลังแต่งงาน เคยถูกให้ออกจากบริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่งเพราะว่าถูกจับได้ว่าทำพฤติกรรมแบบนี้”
“เคยมาจีบ ชวนไปกินข้าว เคยแวะไปอพาร์ตเมนต์ของเขา พยายามเข้ามาลวนลามต่างๆ แต่หนีทัน ก็ได้ยินว่าไปทำกับผู้หญิงคนอื่นๆ จนทราบว่าก่อคดีข่มขืน แต่สมัยนั้นข่าวสารไม่ได้รวดเร็ว เคยขึ้นศาลคดีข่มขืนเด็ก 2 กระทง ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ”
“เรื่องของหนูเกิดมา 15 ปีแล้ว แต่อยากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งหนูเคยคบกับผู้ชายคนนี้ก่อนจะเรียนจบ เราเข้าไปทำโปรเจ็กจบกับธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งเขาทำงานที่นั่น เขาก็ทำดีเข้ามาช่วยเหลือตลอด จนชวนไปคุยที่คอนโดฯ เพราะบอกว่าไม่สะดวกออกมา เราก็ไปเพราะคิดว่าเขาจะช่วย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเข้ามากอด จูบ แล้วหนักกว่านั้น เขาข่มขืนเลยค่ะ เราสู้แรงเขาไม่ได้ เราก็กลัวเพราะตอนนั้นพ่อเขาใหญ่มาก เราก็กลัว ได้แต่เงียบ ซึ่งหลังจากนั้นก็ทำทีเหมือนจะคบกับเรา ให้ไปหาทุกครั้งที่อยากจะมีเซ็กซ์ด้วย เราก็กลัวว่าเขาจะแบล็กเมล์ ซึ่งพฤติกรรมของเขาจะแก้ผ้าล่อนจ้อนทุกครั้ง ด่าทอทุกครั้งที่ไม่พอใจ เมื่อไปถึงก็จะลากขึ้นเตียง แต่เรื่องหนูเปิดเผยไม่ได้เพราะพ่อก็มีสถานะทางสังคมเช่นกัน แต่อยากให้ประกอบคดีเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่นๆ”
น้องผู้หญิงบางคนก็เป็นซึมเศร้า เคสนี้เกิดเมื่อปี 2015 จนน้องเขาเป็นซึมเศร้า ต้องกินยากล่อมประสาททุกวัน เขาจะรู้ไหมว่าทำผู้หญิงเป็นแบบนี้มากี่คนแล้ว โดยเคสนี้น้องทำข่าวพรีอาร์อีเวนต์ ก็เคยเจอน้องคนนี้ เป็นคนสวยมาก พยายามตามตื้อน้องมาตลอด จนวันหนึ่งไปกินข้าวกันครั้งแรก หลอกไปที่อพาร์ทเม้นท์ หลอกว่าจะไปเอาของ หลอกน้องเขาไปด้วย เขาก็ข่มขืน โดยที่น้องร้องไห้ แกล้งชัก แกล้งเป็นอะไร พยายามทุกวิถีทางที่จะเอาตัวรอดแต่สู้แรงไม่ไหว ก็ไม่สนใจ จนข่มขืนเสร็จ น้องเคยบอกมันว่าจะไปแจ้งความ แต่กลับเจอมันบอกว่าจะไปแจ้งความหรอ รู้ไหมว่ามันเป็นลูกใคร จะไปแจ้งความก็จะเอาเงินปิดปาก แถมเกิดเรื่องเสร็จก็มาโพสต์ธรรมะต่อ จนวันหนึ่งผ่านไปได้วนกลับมาเจอกันอีก ก็คงจำไม่ได้ พยายามหาเบอร์น้องคนนี้มาอีก
“วันนี้ผมได้นัด สน.ลุมพินีแล้ว จะไปตามเรื่องกล้องวงจรปิด ก็ทราบมาว่าเขาจะไม่เผยตัวจนกว่าผมจะเปิดชื่อ แต่คนแบบนี้พยายามใช้หน้าที่การงานตัวเองมาสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วทำแบบนี้กับผู้หญิง แล้วขู่ว่าพ่อใหญ่ จะใหญ่แค่ไหน ถ้าทำผิดกฎหมายผมก็ไม่กลัว ไม่ต้องกังวลเพราะผมเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ที่ผมยอมเอาตัวเองออกมาเสี่ยงถูกฟ้องร้อง เพราะมันทำแบบนี้กับผู้หญิงหลายคน ถ้าใครถูกทำแบบนี้ ส่งเรื่องเข้ามานะครับ ผมจะปิดชื่อปิดนามสกุล แต่ขอให้ส่งเข้ามาให้ผมมีหลักฐานว่ามีคนร้องเรียนกับผมเยอะมากจริงๆ”…