นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ตามที่บังคับใช้มาตรการตัดคะแนนใบอนุญาตขับรถขนส่งและรถสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร แท็กซี่ ตุ๊กๆ จักรยานยนต์ (จยย.) รับจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.64 จนถึงวันที่ 7 เม.ย.65 ประมาณ 5 เดือน มีผู้กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ถูกตัดคะแนนสะสมทั่วประเทศทั้งสิ้น 7,684 ราย

พบว่ามีผู้ขับรถขนส่งและรถสาธารณะถูกพักใช้ใบอนุญาตจำนวน 24 ราย ซึ่งแต่ละรายมีการกระทำผิดซ้ำในข้อหาเดิมหลายครั้ง โดยเฉพาะการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน อีกทั้งแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพอีกด้วย และในจำนวนนี้มีผู้ขับรถโดยสารสาธารณะถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว 1 ราย เนื่องจากใช้ยาเสพติดให้โทษขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก 

นายเสกสม กล่าวต่อว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวที่มีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าช่วงเวลาปกติ ขอย้ำเตือนผู้ขับรถขนส่งและรถสาธารณะให้ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ผู้ขับรถควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่ขับรถเกินชั่วโมงทำงานตามที่กฎหมายกำหนด ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีใบอนุญาตขับรถถูกต้องตามประเภท

นายเสกสม กล่าวอีกว่า หากละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ และพิจารณาดำเนินการถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ทั้งนี้มาตรการตัดคะแนนที่นำมาบังคับใช้นี้ มุ่งหวังที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับรถขนส่งและรถสารธารณะให้มีสำนึกความปลอดภัยและเคารพกฎหมาย ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการ รถสาธารณะด้วยความปลอดภัย พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจต่อการขนส่งและการใช้บริการรถสาธารณะ รวมทั้งเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการขับขี่ ลดการกระทำผิดซ้ำในข้อหาเดิม ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม