หลังจาก บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ประชุมกับสโมสรไทยลีก 1 เพื่อขยับโปรแกรมท้ายฤดูกาล เพื่อให้ทีมชาติไทย ชุด 23 ปี มีเวลาเตรียมตัวก่อนลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่าง 6-22 พ.ค.65 ตามที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ได้ประสานไป ก่อนมีมติเลื่อน 3 แมตช์เดย์ คือ นัดปิดฤดูกาล จากวันที่ 7 พ.ค. เป็น 4 พ.ค. กับ รีโว่ ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ กับรอบชิงชนะเลิศ จากวันที่ 11 กับ 15 พ.ค. เป็นวันที่ 21 กับ 29 พ.ค. ขณะที่รีโว่ ลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดตกค้าง ราชบุรี มิตรผล พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขยับจาก 4 พ.ค. เป็น 8 พ.ค.

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวขอบคุณสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, บจก.ไทยลีก และทุกสโมสร ที่เข้าใจ มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ในฐานะคนทำทีม มีใจรักฟุตบอลเหมือนกัน เข้าใจดีว่าโปรแกรม และสถานการณ์ช่วงท้ายฤดูกาลสำคัญอย่างไร บางสโมสรอาจจะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดบางประการ ส่วนตัวแล้วเข้าใจในความยากลำบาก การร่วมใจกันลงมติตัดสินใจขยับนัดปิดฤดูกาลของ ไทยลีก เข้ามา ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจเพื่อชาติของคนรักฟุตบอล

ผู้จัดการทีมช้างศึก กล่าวด้วยว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ ไม่สามารถประมาทคู่แข่งขันในอาเซียนได้แม้แต่ทีมเดียว โดยเฉพาะ “เจ้าภาพ” เวียดนาม เว้นลีกในประเทศยาวนาน ให้ทีมชาติชุดต่างๆ เก็บตัว การที่ซีเกมส์แข่งไม่สอดคล้องกับปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ทำให้ไทยประสบปัญหาเตรียมทีม เนื่องจากไทยลีกยังแข่งขัน ทำให้ทีมชาติไม่สามารถเรียกใช้นักเตะชั้นนำของประเทศได้

“แม้บางท่านเห็นว่าควรจะส่งทีมชาติชุด 19 ปี ไปร่วมแข่งขัน แต่หากทำเช่นนั้น ในขณะที่เพื่อนบ้านล้วนส่งทีม 23 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน ก็ไม่น่าจะเป็นการให้เกียรติหรือเคารพคู่แข่งขันเท่าที่ควร”

มาดามแป้ง กล่าวต่อไปว่า “ซีเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่สำคัญ มีศักดิ์ศรีของภูมิภาค จะปฏิเสธถึงความคาดหวังของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้  แป้งขอขอบคุณทุกคนที่ปรับตารางการแข่งขันให้เอื้อต่อทีมชาติไทย ซึ่งจะส่งผลให้นักกีฬาทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อความสุขของแฟนบอลชาวไทย และกระแสความนิยมที่จะส่งผลไปถึงฟุตบอลลีกของทุกสโมสร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรากฐานฟุตบอลไทยที่แข็งแกร่ง”

สรุปโปรแกรมบอลอาชีพไทย ช่วงท้ายฤดูกาล รีโว่ ไทยลีก นัดปิดฤดูกาล วันที่ 4 พ.ค./ช้าง เอฟเอ คัพ (สุพรรณบุรี, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, โปลิศ เทโร) รอบรองฯ วันที่ 18 พ.ค., รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 22 พ.ค./ รีโว่ ลีกคัพ (พีที ประจวบ, ชลบุรี, ลีโอ เชียงราย, ราชบุรี หรือ บุรีรัมย์) รอบรองฯ 25 พ.ค., รอบชิงฯ 29 พ.ค.

ส่วนโปรแกรมทีมชาติไทย ในศึกซีเกมส์ วันที่ 7 พ.ค. พบ มาเลเซีย, วันที่ 9 พ.ค. พบสิงคโปร์, วันที่ 14 พ.ค. พบ กัมพูชา, วันที่ 16 พ.ค. พบ ลาว, วันที่ 16 พ.ค. รอบรองฯ, วันที่ 22 พ.ค. รอบชิงฯ

ขณะที่โปรแกรม ทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่อุซเบกิสถาน เริ่มเก็บตัว 27 พ.ค. จากนั้นไปอุซเบกิสถาน วันที่ 28 พ.ค. เตะนัดแรกพบ เวียดนาม 2 มิ.ย. เท่ากับว่า หากไม่นับซีเกมส์แล้ว จะมีเวลาเตรียมก่อนแข่งแค่ 4 วัน ไม่รวมวันเดินทาง.