เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เบอร์ 1 กลุ่มเรารักพัทยา กล่าวว่า ที่จริง “นอมินี” คือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ แต่คนไทยไปใช้ “นอมินี” ในความหมายว่าเป็นหุ่นเชิด หรือร่างทรงของใคร สำหรับตนนั้นได้รับการเสนอชื่อจากกลุ่มเรารักพัทยา เพราะที่ผ่านมาทำงานสอดคล้องกันมาตลอด ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ เมื่อกลุ่มเห็นถึงความสามารถที่จะเข้ามาบริหาร ต่อยอดงานที่ยังคั่งค้างอยู่ของเมืองพัทยาต่อไปได้จึงได้รับการเสนอชื่อมา ส่วนคำว่า “นอมินี” ในความหมายที่ว่าเป็นหุ่นเชิด หรือร่างทรงนั้น

ส่วนตัวขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะทำงานการเมืองมากว่า 20 ปี ไม่เคยมีประวัติที่จะถูกใครชักจูงให้ไปทางไหน เพียงแต่ว่าเรามีความใกล้ชิด ทำงานกันเป็นทีม ซึ่งแต่ก่อนคนมองบ้านใหญ่คือบ้านที่โอบอ้อมอารี ใครๆก็เข้าหาถ้าเป็นความหมายนี้ก็ยินดีที่จะรับ แต่ถ้าบ้านใหญ่คือผู้มีอิทธิพล ส่วนตัวมองว่ามันหมดยุคหมดสมัยไปแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการเสนอตัวในครั้งนี้ถูกรับเลือกจากกลุ่มที่มีความตั้งใจอาสาจะเข้ามาทำงานในด้านนี้ โดยการทำงานจะมีทีมที่คอยสนับสนุน เชื่อมโยงถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลที่จะทำงานให้เมืองพัทยาสำเร็จได้เร็วขึ้น

สำหรับทีมงานมีทั้งรุ่นใหญ่ที่มาพร้อมกับคนรุ่นใหม่ มีทั้งคนที่มีประสบการณ์ มีคอนเนกชั่น มีวิสัยทัศน์ที่จะปรับเปลี่ยนให้เมืองพัทยาทันสมัยและดียิ่งขึ้น เช่น ป้ายหาเสียงของกลุ่มเรารักพัทยาจะทำขนาดที่เล็กลง เพื่อไม่ให้ไปกีดขวางการจราจร ในอนาคตป้ายโฆษณาในพื้นที่เมืองพัทยาอาจจะมีป้ายขนาดที่เล็กลง ส่วนรถหาเสียงเรามีการปรับไม่ให้เปิดเสียงดังในช่วงเช้าและเย็น เพราะเป็นช่วงที่ประชาชนพักผ่อน การหาเสียงในยุคนี้เป็นการหาเสียงที่ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า การเป็นตัวอย่างที่ดี ของการเข้าใจในประชาชน การเข้าใจกับส่วนรวม จะเผยแพร่ออกมาถึงตัวตนของเรา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการหาเสียงอีกรูปแบบหนึ่ง.