แม่สอดกำลังจะเปลี่ยนไป จากดินแดนชายขอบของ จ.ตาก ที่สงบเงียบกลายเป็นเมืองที่กำลังถูกธุรกิจ “กาสิโน” ที่ผุดเป็นดอกเห็ดบน 2 ฝั่งแม่น้ำสบเมย หรือที่คนแม่สอดเรียกว่าท่าข้ามธรรมชาติ ซึ่งมีความกว้างแค่ 40-80 เมตร กั้นเมืองเมียวดีของประเทศเมียนมา กลืนกินต่อหน้าต่อตา
เพียงลำน้ำกั้น ยากจะต่อต้าน
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่บ่อนกาสิโนอย่างที่รู้ แต่ได้ต่อยอดไปสู่ “กาสิโนออนไลน์” หรือ “บ่อนออนไลน์” ที่เล่นได้เสียเร็วมาก รวมถึงแก๊งต้มตุ๋น “คอลเซ็นเตอร์” ที่มีคนตกเป็นเหยื่อมากมาย คนในแม่สอดรู้ดีว่ามีบ่อนนับสิบแห่ง ข้อมูลจากกลุ่ม “แม่สอดไม่ทน” น่าสนใจยิ่ง
1. สตาร์เวกัส กาสิโน ที่รู้จักกันในนาม ท่าสตาร์ อยู่ติดถนน จอดรถสะดวกสบาย เจ้าของนัยว่า ชื่อ “เสี่ยตือ” ผู้โด่งดังแห่งสตาร์เวกัส ทำอาชีพนี้ที่ปอยเปตชายแดนไทยฝั่งอรัญประเทศมานานกว่า 20 ปี รบ.กัมพูชา เริ่มกวาดล้างเลยหันมาปักหลักที่แม่สอด เดิมมี
ห้องพักแค่ 20 ห้อง ตอนนี้สร้างอาคาร 4 ชั้นอีก 10 อาคาร คาดว่าจะจุคอมพิวเตอร์ได้กว่า 4,000 เครื่อง โดยบารมีของบ่อนนี้ว่ากันว่าแตะไม่ถึง เพราะเสียค่าใช้จ่ายให้ทั้งฝั่งไทย ฝั่งกะเหรี่ยง
2.กาสิโน เฮงเส็ง เป็นบ่อนของคนจีน อยู่ท่า 6 เก่า และเป็นกาสิโนที่รับนักเสี่ยงโชคจากไทย แต่ด้านบนใช้ทำออนไลน์และส่งตรงไปยังประเทศจีน จึงไม่มีออนไลน์จากไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้
3.เมียวดี คอมเพล็กซ์ รับนักเสี่ยงโชคในไทยมากว่า 7 ปี เป็นอาคารชั้นเดียว มีโรงแรม 20 กว่าห้อง ตอนนี้ขยายรับบ่อนออนไลน์จึงเพิ่มอีก 100 กว่าห้อง โดยเป็นลูกค้าคนไทย มีคอมพิวเตอร์ 100-200 ตัว มีเยาวชนไทยเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนออนไลน์นี้มากมาย
4. แกรนด์ เมียวดี เพราะใช้ท่าข้ามที่เรียกว่า ท่าแกรนด์ อยู่ใกล้กับเมียวดี คอมเพล็กซ์ เป็นอาคารชั้นเดียวมีห้องพัก 20 กว่าห้อง แต่ขยายรับออนไลน์ด้านข้างได้อีกเป็นร้อยเครื่อง มีการเปลี่ยนมือมาบริหารโดยกลุ่มกาสิโนอันดามันแห่งเกาะสอง จ.ระนอง ลูกค้ามาจากกลุ่มคนไทยเกาะสองในระนอง และเกาะสนในทะเลอันดามัน
5. เดอะซัน แห่งท่า 14 ถือเป็นกลุ่มน้องใหม่สุด แต่มาแรงจนเป็นที่กล่าวขานเพราะเจ้าของเป็นเด็กหนุ่มอายุแค่ 30 กว่า ๆ ชื่อเล่น “ป๊อก ขอนแก่น” กลุ่มนี้มีฐานเดิมมาจากภาคอีสานและร่ำลือบารมีว่าเหนือกว่านายกฯ มีเว็บไซต์บอกแผนธุรกิจที่จะสร้างกาสิโนและอาคารสำหรับเช่าทำกาสิโนออนไลน์ด้วย คาดว่าจะจุคอมพิวเตอร์ได้กว่า 6,000 เครื่อง ลูกค้ามาจากฝั่งกัมพูชาและไทยด้วย
นอกจากนั้นยังมีรายย่อย อาทิ จัสติน อาคารสีม่วง และ Lion ท่า 18 ที่มีพื้นที่น้อยแต่ตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้เป็นร้อยเครื่อง เป็นต้น
หลังสงกรานต์นี้ รบ.จะผ่อนปรน “มาตรการควบคุมโควิด” ให้เปิดท่าข้ามในวันที่ 17 เม.ย.นี้ “ลำน้ำสบเมย” จะไม่ใช่แค่ท่าข้ามธรรมชาติที่คน 2 ฝั่ง อีกฝั่งเป็นกะเหรี่ยงพุทธ อีกฝั่งคือไทยที่เป็นชาวพุทธเช่นกัน จะใช้ค้าขายตามปกติเหมือนเดิมแล้ว แต่จะเป็นเหมือน “ประตูนรก” ที่คนนับหมื่นใช้ข้ามไป-มาเล่นการพนันและสารพัดอบายมุข ธุรกิจสีเทาอีกมากมาย ทั้งการค้าประเวณี ยาเสพติด และ อาชญากรรมหลากหลายชนิด ที่มาเป็นแพ็กเกจ
แน่นอนแม่สอดคงจะคึกคักขึ้นอีกมาก หลังซบเซามานาน อาจมีธุรกิจเกิดเพื่อรองรับคนเป็นหมื่น ๆ แต่จะคุ้มหรือไม่ ที่จากเมืองแห่งธรรมชาติ น้ำตกทีลอซู เมืองแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมืองแห่งเจ้าพ่อพะวอ
กำลังจะกลายเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยแหล่งรวมกาสิโนออนไลน์ใหญ่สุดในอาเซียน อย่างนั้นหรือ? มันไม่ใช่ส่งผลกระทบแค่ผู้คนโดยเฉพาะเยาวชนและเด็กในแม่สอด เท่านั้น แต่เยาวชนทั้งชาติที่จะตกเป็นเหยื่อการพนันออนไลน์ที่กัดกร่อนอนาคตของพวกเค้าให้พังพินาศไปทีละน้อยนั่นเอง
เปิดบ่อนเสรี กาสิโนถูกกฎหมาย ยังอีกไกล และเป็นเรื่องที่ต้องถกกันจริงจัง แต่อนาคตใกล้ ๆ นี้ แม่สอดกำลังน่าเป็นห่วง แล้วใครจะช่วยพิทักษ์แม่สอดบ้าง?!?
ผู้มีอำนาจในทุกระดับ จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ จริง ๆ หรือ…
——————–
ดาวประกายพรึก