เมื่อวันที่ 11 เม.น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภาพการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ที่ ทสภ. ที่แสดงให้เห็นถึงความแออัด และไม่ได้รับความสะดวก ณ จุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งมีการเผยแพร่อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้นั้น ขอเรียนชี้แจงว่าความแออัดดังกล่าวเกิดขึ้นในบางช่วงที่เที่ยวบินมีความหนาแน่น (Peak) ประกอบกับในช่วงนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 

นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศโดยยกเว้นการตรวจ RT-PCR ที่ต้นทาง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาทำให้จำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ทสภ. เพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 6,000-7,000 คน เป็นวันละ 9,000-10,000 คน ส่งผลให้บางช่วงเวลาเกิดความคับคั่งบริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลา 05.00 -07.00 น. และ 12.00-15.00 น. โดยมีจำนวนผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว 1,500-2,000 คนต่อชั่วโมง ขณะที่ ทสภ. มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,000 คนต่อชั่วโมง ตามมาตรการการคัดกรองด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน 

นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทสภ.ได้ดำเนินการบูรณาการการให้บริการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) และทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับการบริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์  พร้อมทั้งกำหนดให้ติดป้ายแสดงชื่อโรงแรมเรียงตามตัวอักษรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเข้ารับบริการของผู้โดยสาร นอกจากนี้ได้เพิ่มช่องทางออกจากห้องสายพานรับกระเป๋าขาเข้าจากจุดตรวจศุลกากรจากเดิม 1 ช่องทาง เป็น 2 ช่องทาง 

นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือโรงแรมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และรถรับส่งผู้โดยสารที่จะต้องนำไปตรวจ RT-PCR และรอผลที่โรงแรมให้มีจำนวนเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ ทสภ. และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น