ช่วง “เทศกาลสงกรานต์” หรือหลายคนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา เดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนประจำปีหลายที่ทำงานมาอย่างยาวนาน แต่ปีนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงสร้างผลกระทบไปทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทยด้วย ทำให้คนไทยยังคงต้องระมัดระวังการใช้ชีวิต แม้หลายๆ ที่จะมีการเปิดให้เล่นสงกรานต์อยู่ แต่ หากใครไม่อยากไปเล่นน้ำสงกรานต์ให้เสี่ยงโรคเสี่ยงภัยหันไปเข้าวัดทำบุญ แต่ก็ไม่อยากจะพบกับผู้คนมากมายอีก วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” ขอชวนทุกท่านเที่ยว 10 วัด Unseenทั่วไทยเสริมดวง รับสงกรานต์ 65 จะมีวัดใดกันบ้างไปชมกันเลยครับผม

วัดพระธาตุดอยพระฌานจังหวัดลำปาง

ขอบคุณรูปภาพจาก : วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงที่เรียกว่า ดอยพระฌาน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะได้รอบทิศทาง รวมถึง อ.เกาะคา และ อ.เมืองด้วย  ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาดั้งเดิมซึ่งมีความอ่อนช้อยงดงาม โดยภายในวัด มีองค์พระธาตุเก่าแก่สีขาวยอดฉัตรสีทองอายุกว่า 100 ปี อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองลำปาง

นอกจากนี้วัดพระธาตุดอยพระฌาน องค์พระใหญ่สีเขียวอมฟ้า ที่มีลักษณะคล้ายกับ องค์พระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ปนะเทศญี่ปุ่น ซึ่งประดิษฐานบนเนินเขาของวัด ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากมายและต้องเข้ามาถ่ายรูปเช็คอินให้ได้เมื่อมาเยือนเมืองลำปาง

วัดสมานรัตนาราม-จังหวัดฉะเชิงเทรา

@thewonderalice / Unsplash

วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว (ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง แลนด์มาร์คสำคัญคงหนีไม่พ้น องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาวกว่า 24 เมตร ตัวองค์มีสีชมพูสดใส เชื่อกันว่าใครที่ได้มาขอพรเทพเจ้าแห่งความสำเร็จนี้ จะทรงประทานพรให้พบกับ ความสุขความสำเร็จ มีความสมบูรณ์พูลสุข มั่งคั่ง อิ่มหนำสำราญ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ปราศจากทุกข์ภัย ไร้ความเศร้าหมองใด ๆ

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร-จังหวัดลำพูน

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใน ถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นับว่ามีความสำคัญทั้งทาง ด้านศาสนาและทางด้านประวัติศาสตร์ ในภาคเหนือและอยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานมากกว่าพันๆ ปี

ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมและศิลปที่งดงามน่าชม ทั้ง วิหารหลวงที่งามอ่อนช้อย หอไตร รวมถึงซุ้มประตูที่งามวิจิตร สิงห์คู่ที่ยืนโดดเด่นเป็นสง่า และยังมี เจดีย์แบบล้านนาไทยดั้งเดิมแท้ๆ ซึ่งภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็นพระธาตุประจำตัวของ คนที่เกิดปีระกา ที่ต้องหาโอกาสมาสักการะเสริมดวงชะตากันสักครั้ง

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว-จังหวัดอุบลราชธานี

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว รู้จักกันในชื่อ วัดเรืองแสง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของเขาพระสุเมรุบริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า 

จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชม ภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถ
เป็นฝีมือการออกแบบของ ช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง โดยใช้สารเรืองแสง แต่ภาพเรืองแสงนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเล็กน้อย สื่อถึงหัวใจหลักของการทำพุทธศิลป์ คือ การนำเสนอ งานศิลปะที่เกิดจากความสงบ ความเพียร ความอดทน และวิสัยทัศน์ วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ซึ่งเป็นวิวลำน้ำโขง และมองเห็นวิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวได้

วัดชมโพธยาราม-จังหวัดฉะเชิงเทรา

ขอบคุณรูปภาพจาก : วัดชมโพธยาราม

วัดชมโพธยาราม ตั้งอยู่บนถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ตำบลโสธร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดย พระครูปลัดสุโพธิ์ จันทาโภ เดิมเป็นเพียง สำนักสงฆ์พุทธคยานุสรณ์ เท่านั้นต่อมาก็มีการสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ พระอุโบสถ และสังเวชนียสถานจำลองทั้ง 4 แห่ง แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2544 และได้ยกลำดับเป็น วัดชมโพธยาราม ในเวลาต่อมา 

แลนด์มาร์คสำคัญคือ สังเวชนียสถานจำลอง หรือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของพระพุทธเจ้าทั้ง ประสูติ-ตรัสรู้-แสดงปฐมเทศนา-ปรินิพพาน ที่จำลองมาจากประเทศอินเดีย โดยเฉพาะสถานที่ตรัสรู้ ที่จำลองมาจากเจดีย์พุทธคยา เมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ภายในองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปมากมาย จุดประสงค์สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ให้ทุกคนตระหนักได้ถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท และสามารถไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลได้

วัดมณีวงศ์-จังหวัดนครนายก

ขอบคุณรูปภาพจาก : จังหวัดนครนายก

วัดมณีวงศ์ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ภายในวัดจำลองให้เป็นเมืองบาดาลใหญ่ที่สดในประเทศ มีพระพุทธรูปพระรัตนมณีมหาบาดาล ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม ภายในจะมีพญานาคทั้ง 4 ตระกูล และบริวารรวมแล้วกว่า 1,000 คน

จุดที่จะต้องขอพร คือ จุดแรก พญานาค 2 องค์ หน้าประตูวัด ฝั่งขวาของวัด ขอพรเรื่องสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนด้านซ้ายมือของวัด ขอด้านการงาน การเงิน และหนี้สิน จุดที่สอง ไหว้หลวงพ่อพันล้าน ขอด้านการเงิน ธุรกิจ จุดที่สาม พระพุทธรูปป่าเลไลยก์ ขอให้มีชัยชนะเหนือศัตรู และจุดที่ห้ามพลาด คือ กราบนมัสการ พระประธานในโบสถ์ ขอพรด้าน การเงิน ทรัพย์สมบัติ โชคลาภ และปัญหาต่างๆ

วัดไพศาลสถิต-จังหวัดนครศรีธรรมราช

ขอบคุณรูปภาพจาก : จังหวัดนครศรีธรรมราช

วัดไพศาลสถิต หรือ วัดปากพยิง ถืออีกหนึ่งสถานที่อันซีนในจังหวัดนครศรีธรรมราช คือภายในมี โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งถูกโอบอุ้มไว้ว้ด้วยรากต้นไทร รากต้นโพธิ์ กลายเป็นลวดลายจากธรรมชาติที่สวยงาม ภายในพระอุโบสถเก่าได้รับการบูรณะพื้นใหม่สะอาด ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีทองอร่าม พระโอษฐ์สีแดงเข้ม คือ หลวงพ่อปากแดง รวมถึงพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ข้างซ้ายขวา ผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรหลวงพ่อปากแดงในเรื่องของ ความรักและความร่มเย็นเป็นสุข

วัดพระธาตุดอยคำ-เชียงใหม่

ขอบคุณรูปภาพจาก : วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำ เป็น วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่อทันใจ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักมาขอพรทั้งเรื่องของ โชคลาภ หน้าที่การงาน และเรื่องธุรกิจ และเมื่อสำเร็จผลได้ตามที่ปรารถนา ก็จะนำพวงมาลัยดอกมะลินำมาไหว้ท่านตามจำนวนที่เคยบอกไว้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทันใจบ่อยครั้ง จนเลื่องลือไปไกลถึงต่างแดนเลยทีเดียว

พระธาตุท่าอุเทน-จังหวัดนครพนม

ขอบคุณรูปภาพจาก : เทศบาลตำบลท่าอุเทน

พระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ภายในวัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนรูปทรงสี่เหลี่ยม จำลองมาจาก พระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า ภายในบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา พระธาตุท่าอุเทน ถือเป็น พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำ วันศุกร์ คือหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร-กรุงเทพมหานคร

Wat Chana Songkhram (I).jpg
Wikipedia / Supanut Arunoprayote

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญใน กองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงครามมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้ไหว้พระวัดชนะสงคราม คนที่กำลังพบเจอกับอุปสรรคจะสามารถเอาชนะอุปสรรคและภัยพาลได้ทั้งมวล เหมือนดั่งชื่อวัดที่ว่า “ชนะสงคราม”