สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่า ธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) เผยแพร่รายงาน คาดการณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของยูเครน ว่า จะหดตัวประมาณ 45.1% ในปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลจากการสู้รบกับรัสเซีย และยิ่งสถานการณ์สู้รบยืดเยื้อนานเท่าไหร่ โอกาสที่เศรษฐกิจของยูเครนจะกดตัวมากกว่านี้ ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น


ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งเผชิญกับแรงเสียดทานอย่างหนัก เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มประเทศตะวันตก มีแนวโน้มหดตัวประมาณ 11.2% ในปีนี้ นอกจากนั้น ภาวการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในภาพรวม ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในยุโรปและเอเชียกลาง ซึ่งเวิลด์แบงก์วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเหล่านี้จะหดตัวรวมกัน 4.1% ในปีนี้ ลดลงอีกสองเท่า เมื่อเทียบกับสถานการณ์เมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่พื้นที่ส่วนใหญ่บนโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกแรก ของโรคโควิด-19


นอกจากนี้ ตลาดอาหารโลกจะได้รับผลกระทบอย่างหนักด้วย เนื่องจากรัสเซียและยูเครนเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อทุกกระบวนการของห่วงโซ่อาหารโลก ปัจจุบัน รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่วนยูเครนอยู่ในอันดับที่ 5 ขณะที่เมื่อรวมกับปริมาณข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี และข้าวโพด ที่ทั้งสองประเทศผลิตได้รวมกัน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของตลาดธัญพืชโลก


ขณะที่การส่งออกน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันของรัสเซียและยูเครน มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 52% ของตลาดการส่งออกโลก ขณะที่สถานการณ์ตลาดปุ๋ยน่าเป็นห่วงเช่นกัน เนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก.

เครดิตภาพ : REUTERS