สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ว่า การเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสรอบแรก มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ โดยผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 48.7 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศราว 67.7 ล้านคน มีกำหนดออกมาลงคะแนน ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 13.00-01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย )


การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 12 คน ผู้สมัครคนใดต้องการชนะตั้งแต่รอบแรก ต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากกว่า 50% ซึ่งทุกฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า เป็นไปได้ยากมาก คณะกรรมการการเลือกตั้งของฝรั่งเศสจึงกำหนดวันลงคะแนนรอบตัดสิน ระหว่างผู้สมัครซี่งมีคะแนนมากที่สุดสองอันดับแรก ในวันที่ 24 เม.ย.นี้

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง


สำหรับผู้สมัครที่น่าจะเข้าสู่รอบชิงดำตามผลการสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลทุกแห่ง ยังคงเป็นไปในทางเดียวกัน นั่นคือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำคนปัจจุบัน ซึ่งมาทางสายกลาง กับนางมารีน เลอ แปน นักการเมืองหญิงฝ่ายขวาจัด โดยทั้งสองคนขับเคี่ยวกันมาแล้ว ในการเลือกตั้งรอบตัดสิน เมื่อปี 2560 ซึ่ง มาครง วัย 44 ปี ชนะ เลอ แปน วัย 53 ปี ไปแบบทิ้งห่างหลายช่วงตัว

นางมารีน เลอ แปน


อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วมาก มีการวิเคราะห์ว่า ผู้นำฝรั่งเศสวางแผนพลาดพอสมควร ที่ประกาศตัวลงชิงชัยในช่วงเดือนสุดท้ายของการหาเสียง จึงไม่ค่อยมีเวลาชี้แจงมากนัก เกี่ยวกับนโยบายหลายเรื่อง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะแผนเพิ่มเพดานการเกษียณอายุ และการปฏิรูปสวัสดิการอีกหลายเรื่อง ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง ในยุคของมาครง


ขณะที่เลอ แปน ซึ่งเป็นนักกฎหมายอุดมการณ์ขวาจัด หาเสียงชูนโยบายแก้ปัญหาค่าครองชีพ และวิจารณ์นโยบายของสหภาพยุโรป ( อียู ) ตลอดจนการต่อต้านผู้อพยพ และการรักษา “อัตลักษณ์” ของฝรั่งเศส การที่ผลสำรวจความคิดเห็นในช่วงโค้งสุดท้ายระบุว่า 56% ของผู้มีสิทธิลงคะแนน ที่อายุระหว่าง 18-24 ปี ต้องการเลือกเลอ แปน จึงมีการวิเคราะห์ว่า เธอมีโอกาสเป็นผู้ชนะเลือกตั้งรอบแรก “มากในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”.

เครดิตภาพ : REUTERS