สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ว่า ทำเนียบรัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น ตั้งแต่สงครามในยูเครน ไปจนถึงมาตรการตอบสนองต่อโรคโควิด-19 และบรรยากาศในทะเลจีนใต้


ในส่วนของประเด็นทะเลจีนใต้ ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องใช้ความพยายามร่วมกันในระดับสูงสุด เพื่อผดุงไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และการมีเสถียรภาพในทะเลแห่งนี้ ผ่านการแสดงความอดกลั้น และการหลีกเลี่ยงการสร้างความตึงเครียด ด้วยการกำหนดกรอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน


ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ในฐานะหนึ่งในสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) มีจุดยืนร่วมับสมาชิกที่เหลือ ยึดมั่นตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ( อันคลอส ) ฉบับปี 2525 ที่สมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศและจีนล้วนเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับดังกล่าว ให้ถือเป็น “กฎหมายทะเลระหว่างประเทศ” ในการจัดการข้อพิพาทเขตแดนทางทะเล พื้นที่ทับซ้อน การเดินเรือ และครอบคลุมผลประโยชน์ทางทะเลในทุกด้าน


ขณะเดียวกัน จีนและอาเซียนร่วมกันจัดทำแนวทางปฏิบัติ ( ซีโอซี ) เรื่องทะเลจีนใต้ โดยร่างฉบับแรกจัดทำเสร็จสิ้นเมื่อต้นปี 2562 ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งหวังให้เป็นการปูทางสู่การยกระดับข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน จากกรอบความร่วมมือฉบับดั้งเดิมที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2545


อนึ่ง เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน เป็นประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งมีความขัดแย้งกับจีนมากที่สุดในเรื่องทะเลจีนใต้ โดยประเทศคู่กรณีทั้งหมดประกาศชัด ไม่ยอมรับแผนที่เส้นประ 9 เส้น ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งอ้างเป็น “หลักฐานทางประวัติศาสตร์” บ่งชี้กรรมสิทธิ์เหนือเกาะ แนวปะการัง สันดอน โขดหิน และน่านน้ำ “แทบทั้งหมด” ในทะเลจีนใต้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES