ภายหลังจาก ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ ได้เกาะติดนำเสนอ ขบวนการค้าลิงข้ามชาติ เพื่อนำไปส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 จนข้ามปี 2565 พบทำกันเป็นเครือข่ายใหญ่ แอบลักลอบตระเวนจับ ลิงแสม หลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อป้อนตลาดมืดที่ค้าขายสัตว์ป่าเพราะกำลังเป็นที่ต้องการในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 นำไปเป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ จนทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ขยายผลจับกุมได้ผู้กระทำผิดพร้อมของกลางจำนวนมาก

ที่สำคัญยังพบว่า ลิงแสมไทย ถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อ “ฟอก” ทำให้ถูกกฎหมายไปพักยังฟาร์มใหญ่ แล้วปลอมแปลงเอกสาร เพื่อส่งลิงแสมไทยออกไปยังประเทศปลายทาง แหล่งใหญ่ยังอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และจีน

อาเซียนแหล่งใหญ่ส่งออกลิงทดลอง

ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ ศ.ดร.สุจินดา มาลัยวิจิตรนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตอนแรกคนอาจจะติดภาพว่า ขบวนการค้าลิงข้ามชาติจะส่งลิงไปต่างประเทศเพื่อไปทำ เมนูเปิบพิสดาร แต่ปัจจุบันการกินสมองลิงแทบไม่มีแล้ว แต่ข้อเท็จจริงขบวนการค้าลิงข้ามชาติที่มีมากเนื่องจาก ตั้งแต่ปี 2562-2564 มีการทดลองเพื่อผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยในการทดลอง 1 โครงการ ต้องใช้ลิงประมาณ 20-30 ตัว ลองนึกดูว่าในไทยมีการทดลองวัคซีนโควิดอยู่ 3-4 ชนิด ยังต้องใช้ลิงเพื่อการทดลองปีละ 100 ตัว ยิ่งในประเทศที่มีการพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, จีน และญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องใช้ลิงในการทดลองจำนวนมาก

ศ.ดร.สุจินดา มาลัยวิจิตรนนท์
ผอ.ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาฯ

ตัวอย่างสหรัฐอเมริกา มีวัคซีนโควิดที่ขึ้นทะเบียนทดลองอยู่เป็น 100 ชนิด และจากรายงานในต่างประเทศของข้อมูล “ไซเตส” มีรายงานการส่งออกลิงไปยังประเทศปลายทางพบว่า จีน ส่งออกลิงมากที่สุด ทั้งที่ ลิงแสม ไม่มีการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศเหล่านี้ เพราะปกติลิงแสมแพร่กระจายพันธุ์ในประเทศตั้งแต่ละติจูดที่ 15-20 องศาเหนือ ส่วนในประเทศไทยการแพร่กระจายพันธุ์ได้สูงสุดอยู่ที่จังหวัดพิจิตร, มุกดาหาร ส่วนในอาเซียนตอนล่างแพร่กระจายได้ถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ และติมอร์-เลสเต

การทดสอบวัคซีนโควิดในลิงที่เป็นสัตว์ทดลองหลักมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ ลิงวอก และ ลิงแสม ในจีนมีการแพร่กระจายพันธุ์ของลิงวอก แต่ไม่มีการกระจายพันธุ์ของลิงแสม ดังนั้นจึงมีขบวนการลักลอบจับลิงแสมในย่านประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเวียดนาม กัมพูชา และไทย แต่มีการลักลอบจับน้อยมากในเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์การเมืองภายใน ที่น่าสงสัยจากข้อมูลรายงานของไซเตส จะเห็นกราฟการส่งออกลิงไปยังต่างประเทศของไทยเพิ่มขึ้นสูงในช่วงหลายปีหลัง จากการตรวจสอบพบว่า ลิงแสมที่ส่งออกจากไทยส่วนใหญ่นำมาขึ้นเครื่องเพื่อส่งออกไปยัง ประเทศที่ 3 ผ่านทางสนามบินของประเทศไทย ส่วนใหญ่ระบุเป็นลิงถูกส่งมาจากฟาร์มเลี้ยงในกัมพูชา

แนะไทยตรวจ “ดีเอ็นเอลิง” ก่อนถูกส่งออก

ศ.ดร.สุจินดา กล่าวต่อว่า ในอดีตขบวนการค้าลิงข้ามชาติ ใช้เส้นทางลักลอบโดยส่งลิงแสมจากไทยไปยังประเทศลาว ก่อนส่งต่อไปเวียดนาม จนไปถึงปลายทางในประเทศจีน แต่ปัจจุบันพบว่าเปลี่ยนเส้นทาง ลักลอบนำลิงออกไปยังด่านชายแดนแถบสระแก้ว แล้วส่งต่อไปพักอยู่ในฟาร์มใหญ่กัมพูชา เพื่อทำเอกสารให้ถูกต้อง ขณะที่ในกัมพูชาไม่มีเส้นทางบินที่จะส่งต่อไปยังอเมริกาได้ จึงต้องนำลิงกลับมาขึ้นเครื่องบินในไทยด้วยการขอไซเตส ดังนั้น กรมอุทยานฯ ควรตรวจสอบ “ดีเอ็นเอลิง” ที่จะต้องถูกส่งไปยังประเทศที่ 3 กระบวนการตรวจปัจจุบันไม่มีความซับซ้อน แค่ดึงขนลิงมา 10 เส้น ก็สามารถตรวจหาได้ว่าเป็นลิงกัมพูชา จริงหรือไม่ โดยกระบวนการตรวจจะรู้ผลภายใน 1 วัน

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าขบวนการฟอกลิง มีมากขึ้น เพราะจากการทำงานไปลงพื้นที่ในกัมพูชาพบว่า ลิงแสม เหลืออยู่น้อย จึงทำให้แอบลักลอบนำลิงจากไทยไปปลอมแปลงเอกสาร เช่นเดียวกับเวียดนาม ลิงก็เหลืออยู่น้อยเช่นกัน เนื่องจากเคยมีการสู้รบสงคราม ทำให้ภูเขาซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของลิงถูกทำลายจากสงคราม

สำหรับในประเทศไทยการจับลิง เพื่อมาเลี้ยงและเพาะพันธุ์ จะมีหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแลออกใบอนุญาตก่อนทุกครั้ง ซึ่งที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ ต้องเขียนโครงการฯ ไปขอตั้งแต่การจับ การเพาะพันธุ์ และต้องทำรายงานส่งกรมอุทยานฯ ทุก 6 เดือน ซึ่ง พ.ร.บ.สัตว์ป่า ปี พ.ศ.2562 จะมีช่องในการทำกิจการเกี่ยวกับสวนสัตว์เพื่อการอนุรักษ์ ดังนั้นจะเห็นว่า ที่ผ่านมาจะมีกลุ่มที่ลักลอบค้าลิงใช้ช่องว่างกฎหมายนี้ โดยอ้างว่าเพาะพันธุ์เพื่ออนุรักษ์ ประเด็นนี้มีคำถามจากคนในพื้นที่ว่า ทำไมมีโครงการทำหมันลิงแสมแล้ว แต่ยังมีการอนุญาตให้เพาะพันธุ์ลิงเพื่อการอนุรักษ์มาอีก

ตัวอย่างอย่างกรณี ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีการจับกุมผู้ต้องหาได้รับใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์เลี้ยงลิงแค่ 1 คู่ แต่เมื่อลงพื้นที่จริงพบเพาะเลี้ยงลิง 40-50 ตัว ถือเป็นพฤติกรรมที่มีความขัดแย้งกัน โดยผู้ต้องหารายนี้ยังได้นำใบอนุญาตมาติดไว้หน้าศูนย์เพาะเลี้ยงเพื่อป้องกันความผิด.

แกะรอย “ค้าลิงข้ามชาติ” แอบซุกฟาร์มหมู (2)

เปิดโปงค้าลิงข้ามชาติ ขายทำสัตว์ทดลอง (1)

ทีมข่าวเฉพาะกิจ : รายงาน