สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่านายแมนนี ปาเกียว อดีตแชมป์มวยสากลระดับโลก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก และลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังจะมีการลงคะแนนในวันที่ 9 พ.ค. นี้ กล่าวถึงการที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ เป็นไปในทางเดียวกัน ว่าผู้ที่คะแนนนิยมนำ คือนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ว่าปัญหาที่ถือเป็น “รากเหง้า” ของประเทศแห่งนี้ คือเรื่องคอร์รัปชั่น แต่กลับกลายเป็นว่า คนส่วนใหญ่เตรียมลงคะแนนให้กับ “ผู้ที่มีมลทิน” ในเรื่องนี้

Reuters

ปาเกียว กล่าวต่อไปว่า ผลสำรวจความคิดเห็นที่ออกมาสะท้อน “ระดับสติปัญญา” อดีตแชมป์มวยโลก วัย 43 ปี กล่าวต่อไปว่า “ฟิลิปปินส์ไม่ได้ยากจนเพราะไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะการทุจริต”

แมนนี ปาเกียว ขึ้นรถหาเสียงและทักทายกลุ่มผู้สนับสนุน ในเมืองเกซอนซิตี ใกล้กับกรุงมะนิลา


ปัจจุบัน คะแนนนิยมของปาเกียวอยู่ในอันดับ 4 ของผลสำรวจแทบทุกแห่ง แต่อยู่ที่เพียงเลขหลักเดียว เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของมาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้อื้อฉาวจากการคอร์รัปชั่น ซึ่งมีคะแนนนิยมอยู่ที่ระดับ 60% ทว่าปาร์เกียวยืนยัน “ความเป็นรากหญ้า” สะท้อนว่า เขาคือ “ตัวเลือกดีที่สุด” สำหรับชาวฟิลิปปินส์ ในการทำหน้าที่ผู้นำประเทศคนต่อไป


ด้าน มาร์กอส จูเนียร์ ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านั้น มาร์กอส จูเนียร์ เคยกล่าวว่า “ไม่สามารถขอโทษได้” กับสิ่งที่บิดาได้กระทำไว้ และถึงแก่อสัญกรรมไปนานแล้ว ส่วนมารดาซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก แต่กำลังเผชิญกับการถูกฟ้องร้องคดีคอร์รัปชั่น


อนึ่ง รายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่มาร์กอสปกครองฟิลิปปินส์ ระหว่างเดือน ธ.ค. 2508 จนถึงเดือน ก.พ. 2529 มีการทุจริตระหว่าง 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 168,230-336,460 ล้านบาท) และในเวลาเดียวกันมีผู้เสียชีวิตจาก “การประหารชีวิตแบบรวบรัด” หมายถึง ไม่มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบปกติ การทรมาน และการบังคับให้สูญหาย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES